หม่อน หรือ Mulberry (Morus spp.) เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะใบหม่อนเป็นอาหารหลักของหนอนไหม ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ ผ้าไหมไทย อันเลื่องชื่อ นอกจากจะมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมผ้าไหมแล้ว หม่อนยังเป็น พืชสมุนไพรและผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น ตั้งแต่ใบ ผล กิ่ง ราก ไปจนถึงเปลือก
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก ต้นหม่อน อย่างละเอียด ทั้งลักษณะทางพฤกษศาสตร์ วิธีขยายพันธุ์ และสรรพคุณทางยา รวมถึง ประโยชน์ด้านสุขภาพของใบหม่อนและผลมัลเบอร์รี
ชื่อวิทยาศาสตร์: Morus spp.
วงศ์: Moraceae
ชื่อภาษาอังกฤษ: White Mulberry, Mulberry Tree
ชื่อท้องถิ่น: หม่อน, มอน (อีสาน), ซึมเฮียะ (จีน)
ต้นหม่อนเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง เจริญเติบโตดีในเขตร้อน ลำต้นกลม ผิวเรียบ ไม่มีกิ่งหนาม มีน้ำยางสีขาวคล้ายน้ำนม
ใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม ลักษณะคล้ายรูปหัวใจ ขอบหยักเป็นฟันเลื่อย ผิวสาก เมื่อผลอ่อนจะเป็นสีเขียวและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มจนเกือบดำเมื่อสุกเต็มที่ ให้รสหวานอมเปรี้ยว
การปักชำกิ่งในแปลง
- ตัดกิ่งอายุ 6 เดือนขึ้นไป ยาว 15–20 ซม. ปักชำในช่วงต้นฤดูฝน (พ.ค.–ก.ค.) ให้กิ่งเจริญเติบโตได้ดี
การปักชำในถุงเพาะ
- คล้ายการปักชำในแปลง แต่ใช้ถุงเพาะชำเพื่อสะดวกต่อการขนย้ายและลดการชะงักการเติบโต
การตอนกิ่ง
- วิธีนี้ช่วยให้ได้ต้นพันธุ์เร็วขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการขยายพันธุ์จำนวนมาก
การติดตา
- นิยมใช้กับพันธุ์หม่อนที่ปลูกเพื่อรับประทานผล เพราะให้ผลเร็วและได้คุณภาพดี
ใบหม่อนเป็น หัวใจสำคัญของการเลี้ยงไหม เพราะให้โปรตีนสูง ทำให้หนอนไหมสร้างเส้นไหมคุณภาพดี นอกจากนี้ใบหม่อนยังสามารถนำมาบริโภคและใช้ทางยาได้ เช่น
ชงเป็นชา ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมัน และควบคุมความดัน
นำใบอ่อนมาปรุงอาหารแทนผงชูรส เช่น ต้มยำไก่ ต้มเป็ด
ใช้เป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ เช่น โค กระบือ หรือปลา
ชาหม่อน จะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี
ผลหม่อนสุกหรือ Mulberry มีรสหวานอมเปรี้ยว กินสดได้หรือแปรรูปเป็นแยม ไวน์ เยลลี่ ไอศกรีม ข้าวเกรียบ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สารสำคัญในผลมัลเบอร์รี เช่น
Anthocyanins: ต้านอนุมูลอิสระ ลดเสี่ยงโรคหัวใจและมะเร็ง
Deoxynojirimycin (DNJ): ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
Phytosterol & Polyphenols: ลดคอเลสเตอรอลและไขมันพอกตับ
วิตามิน C, A, E และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม
ใบหม่อน: ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด, บำรุงหัวใจ, แก้ไข้หวัด ลดความดันโลหิต
ผลหม่อน: ช่วยบำรุงเลือด บำรุงตับและไต เพิ่มความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
กิ่งและรากหม่อน: มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ลดอาการปวดข้อ และแก้อาการมือเท้าเป็นตะคริว
เปลือกต้น: ใช้เป็นยาถ่ายพยาธิและยาระบาย
ใบหม่อนถือเป็น อาหารชั้นเลิศของหนอนไหม เมื่อหนอนไหมกินใบหม่อนจะนำโปรตีนไปสร้างเป็นเส้นใยไหม ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทอ ผ้าไหมไทย (Thai Silk) ที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของไทย
ใบหม่อน 100–120 กิโลกรัม สามารถเลี้ยงหนอนไหมจนได้ รังไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านประมาณ 10–12 กิโลกรัม สร้างรายได้ให้เกษตรกรและเป็นต้นทางของงานหัตถกรรมผ้าไหม
ต้นหม่อนเป็น พืชสารพัดประโยชน์ ที่ไม่เพียงแต่สำคัญต่ออุตสาหกรรมการทอผ้าไหม แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยามากมาย ใบหม่อนสามารถนำมาทำชาเพื่อดูแลสุขภาพ ส่วนผลมัลเบอร์รีก็เป็นผลไม้ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงหัวใจ ตับ และไต
ดังนั้น การปลูกหม่อนไม่เพียงช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับผ้าไหมไทย แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กับสุขภาพและเศรษฐกิจชุมชนอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ. หม่อน (Mulberry: Morus alba Linn.) ออนไลน์
สำนักวิจัยและพัฒนาหม่อนไหม QSDS
พืชเกษตรไทย. หม่อน/ใบหม่อน (mulberry) ประโยชน์และสรรพคุณหม่อน
ข้อมูลเภสัช/สรรพคุณมัลเบอร์รี
ขอบคุณภาพจาก กลุ่มผู้ประกอบการไหม (คลัสเตอร์หม่อนไหมนครชัยบุรินทร์)