โสร่ง คือผ้านุ่งพื้นถิ่นที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ใช้ผ้าผืนเดียวเย็บชายสองข้างติดกันเป็นถุงแบบเดียวกับผ้าถุงหรือผ้าซิ่น นิยมใช้นุ่งทั้งชายและหญิงในหลายประเทศของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะในรูปแบบการแต่งกายแบบลำลองอยู่บ้าน หรือในประเทศอย่างพม่า โสร่งยังเป็นเครื่องแต่งกายหลักที่ใช้ได้ในทุกระดับชนชั้น ตั้งแต่ผู้นำประเทศจนถึงประชาชนทั่วไป
การ จก คือเทคนิคการทอลวดลายที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยการเพิ่มเส้นไหมพุ่งพิเศษในขณะทอ โดยการเสริมเป็นช่วง ๆ แบบไม่ต่อเนื่องเต็มหน้ากว้างผืนผ้า ซึ่งแตกต่างจากการทอธรรมดาที่ทอเส้นพุ่งไปอย่างต่อเนื่อง
วิธีการจกนั้นมีหลากหลายตามกลุ่มวัฒนธรรม เช่น
กลุ่มชาติพันธุ์ ไทยวน ไทพวน ใช้ขนเม่นเป็นอุปกรณ์จกเส้นไหม
กลุ่มชาติพันธุ์ ภูไท ไทครั่ง ลาวเวียง ใช้นิ้วมือในการจกและทอกลับตำแหน่งเดิมจนเกิดเป็น "เกาะลาย"
ในปัจจุบัน การทอจกมีการพัฒนาโดยการใช้วัสดุปลายแหลมแทนขนเม่น เพื่อสะกิดเส้นไหมยืนให้ยกขึ้น แล้วสอดเส้นไหมพุ่งพิเศษแทรกเสริมเข้าไปตามจุดที่ต้องการ จนได้ลวดลายที่ประณีตงดงาม และยังเสริมด้วยการสอดกระสวยเส้นไหมพุ่งเพื่อยึดเส้นพุ่งพิเศษให้แน่นหนา สร้างความโดดเด่นให้กับเนื้อผ้าในตำแหน่งที่มีการจก
การทอผ้าจกสามารถแบ่งเป็น 2 ลักษณะตามวิธีการเก็บปมไหมพุ่งพิเศษ ได้แก่:
จกผูกปมด้านบน: หน้าผ้าอยู่ด้านล่าง นิยมในกลุ่มชาติพันธุ์ ไทยวน ไทครั่ง ลาวเวียง ไทลื้อ
การประยุกต์การทอโสร่งแบบดั้งเดิม มาผสมผสานกับเทคนิคการจกลวดลายเพิ่มบนผืนผ้าได้อย่างลงตัว ก่อให้เกิดความงดงามที่ทรงคุณค่าทั้งทางวัฒนธรรมและศิลปกรรม กลายเป็นผืนผ้าที่เรารู้จักกันในนาม "โสร่งจกดาว" ที่เปล่งประกายด้วยความละเอียดอ่อนของลวดลายที่สอดแทรกลงในเนื้อผ้าอย่างประณีต
โสร่งจกดาวจึงไม่ใช่เพียงเครื่องนุ่งห่ม แต่เป็นตัวแทนของภูมิปัญญา วิถีชีวิต และมรดกทางศิลป์ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก: