โครงการ “มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย” (Mud Tor Jai: Modern Heritage Thai Textile) เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ต้องการยกระดับผ้าไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ด้วยการผสาน “รากเหง้าวัฒนธรรมไทย” กับ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “เทคโนโลยีสมัยใหม่” เพื่อสร้างสรรค์ผ้าไหมไทยที่ร่วมสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผ้าไหมบ้าน เนื้อหยาบนุ่ม ไหมแท้ สีธรรมชาติ พิมพ์ลายเมล็ดข้าวเหนียวดำ เทคนิค Eco-print
ผ้าพันคอสี่เหลี่ยม
ผ้าไหมไทยไม่ใช่แค่ของผู้ใหญ่ แต่คือแฟชั่นของคนรุ่นใหม่
จากแนวคิดที่ว่า "Thai silk is not only for adults; as long as its cultural identity is well redesigned, it is also wearable for the new generation." จึงเกิดเป็นแนวทางในการพัฒนา ผ้าไหมและผ้าฝ้ายพื้นถิ่น ให้มีความร่วมสมัยขึ้น ด้วยดีไซน์ที่ดึงดูดใจและยังคงรักษาอัตลักษณ์ของผ้าไทยไว้ครบถ้วน
เป้าหมายของโครงการ
พัฒนาผ้าไหมพื้นถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดใหม่
ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการพัฒนาและยกระดับสินค้า
ส่งเสริมการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในระดับท้องถิ่น
สร้างแบรนด์ “มัดทอใจ” ให้เป็นสัญลักษณ์ของผ้าไทยร่วมสมัย
1. ขอนแก่น
ใช้แรงบันดาลใจจาก ดอกคูน พัฒนาเป็นลายผ้าใหม่ โดยใช้เส้นใยฝ้ายผสมผักตบชวาและไหมอีรี่ พร้อมเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติจากต้นกระถินและครั่ง
2. นครราชสีมา
ถ่ายทอดความงดงามของธรรมชาติป่าเขาใหญ่ สู่ลายผ้าที่สะท้อนภาพน้ำตก ใบไม้ และผีเสื้อ ใช้เส้นใยโพลีเอสเตอร์ผสมกัญชงและไหมอีรี่ พร้อมคริสตัลตกแต่ง
3. สุรินทร์
นำศิลปะเครื่องเงินโบราณ เช่น กลีบบัว และดอกพิกุล มาถ่ายทอดบนผ้าไหมฝ้าย พร้อมเทคนิคการย้อมสีจากเปลือกมะยมและแก่นขนุน เสริมความหรูหราด้วยคริสตัล
4. สกลนคร
โดดเด่นด้วยลายผ้าย้อมครามจากเส้นใยฝ้ายและใยสับปะรด ถ่ายทอดความลึกซึ้งทางศิลปวัฒนธรรมผ่านการปักแบบ Sashiko ของญี่ปุ่น
เปิดตัวสุดอลังการในงานแสดงที่หอศิลป์กรุงเทพ
งาน “มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย” ได้จัดแสดงขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2566 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยนำเสนอผลงานจากวิสาหกิจชุมชนในภาคอีสาน 8 แห่ง พร้อมการเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ “The Art & Heart of Thai Silk” ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 7 ล้านบาท
“มัดทอใจ” ไม่ใช่แค่โครงการหนึ่งของภาครัฐ แต่คือ “ต้นแบบ” ของการพัฒนาผ้าไทยที่เข้าใจทั้งรากเหง้าและอนาคตอย่างแท้จริง ใครที่ชื่นชอบผ้าไหมไทยและกำลังมองหาแนวทางในการออกแบบผ้าหรือแฟชั่นร่วมสมัยจากผ้าไทย โครงการนี้คือตัวอย่างที่ควรศึกษาและนำไปต่อยอดอย่างยิ่ง
ขอบคุณแหล่งที่มา:
สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กระทรวงอุตสาหกรรม
อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: