ผ้าไหมไทยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและสวยงามจากการทอเส้นไหมธรรมชาติที่มีความแข็งแรงและมันวาว ผ้าไหมไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างคุณค่าทางวัฒนธรรม แต่ยังสร้างรายได้มหาศาลให้กับเศรษฐกิจไทยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี
การทอผ้าไหมไทยเป็นการแสดงออกถึง ศิลปะพื้นบ้าน และ เอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีลวดลายและวิธีการทอที่แตกต่างกัน ทำให้ผ้าไหมไทยมีความหลากหลายและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการส่งเสริมสินค้าไหมไทย ผ้าไหมไทยสามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลักๆ ตามน้ำหนักและความหนาของผ้า ดังนี้:
1. ผ้าไหมไทยชนิดบางมาก (Light Weight)
เนื้อผ้าบางเบา เหมาะสำหรับเสื้อผ้าเบาสบาย เช่น ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าพันคอ
2. ผ้าไหมไทยชนิดบาง (Medium Weight)
มีความหนาปานกลาง เหมาะกับการตัดเย็บเสื้อผ้าใส่ทั่วไปที่เน้นความหรูหรา
3. ผ้าไหมไทยชนิดหนา (Heavy Weight)
เนื้อผ้ามีความหนา เหมาะสำหรับงานแฟชั่นที่ต้องการผ้าทรงตัว
4. ผ้าไหมไทยชนิดหนามาก (Extra Heavy Weight)
เหมาะสำหรับทำชุดทางการ เช่น ชุดไทย ชุดเดรสออกงาน
5. ผ้าไหมไทยชนิดหนาพิเศษ (Drapery Weight)
ผ้ามีความหนาและทิ้งตัวดี เหมาะกับการทำผ้าม่าน หรือของตกแต่งบ้าน
6. ผ้าไหมไทยชนิดหนามากพิเศษ (Upholstery Weight)
เนื้อผ้าหนาเป็นพิเศษ แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์หรือเบาะผ้าไหม
ผ้าไหมสีพื้นเนื้อเรียบเนื้อเรียบ 6 เส้น
ผ้าไหมไทยแต่ละผืนไม่ได้เป็นเพียงแค่ผ้า แต่เป็นผลงานศิลปะที่มีชีวิต ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญของช่างทอในแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นลายขิด ลายมัดหมี่ หรือลายลูกแก้ว ซึ่งล้วนแต่แสดงถึงความประณีตและภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ร้านชอบไหมภาคภูมิใจนำเสนอผ้าไหมคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็น ผ้าขาวม้ามัดหมี่ หรือ สไบลูกแก้วมัดหมี่ ซึ่งทอด้วยเทคนิคดั้งเดิมจากเส้นไหมแท้ 100% เพื่อรักษาความงดงามและเอกลักษณ์ผ้าไหมไทยให้คงอยู่ต่อไป พร้อมนำเสนอสินค้าคุณภาพที่ผสานความทันสมัยและความงดงามของวัฒนธรรมไทยให้ลูกค้าทุกคน
หากคุณกำลังมองหาผ้าไหมที่มีคุณค่า ทั้งในแง่ของศิลปะและการใช้งาน ร้านชอบไหม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อมรดกผ้าไหมไทยที่สวยงามและทรงคุณค่าให้ถึงมือคุณ