ผ้าตีนจกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือ ผ้าจกแม่แจ่ม แต่ผ้าในตระกูลเดียวกันนี้ยังมีผ้าจกไทลื้อ-ยวนและผ้าลาวครั่งรวมอยู่ด้วย ผ้าตีนจกเป็นผ้าของกลุ่มวัฒนธรรมไทลื้อ-ยวน ซึ่งมีต้นกําเนิดในอารยธรรมล้านนา เมื่อมีการเคลื่อนย้ายผู้คนทั้งจากการอพยพและกวาดต้อนจึงทําให้การผลิตผ้าจกกระจายตัวไปสู่หลายภูมิภาคในประเทศไทย แม้จะมีการพัฒนาลวดลายและรูปแบบต่างกันออกไปตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่กรรมวิธีในการผลิตยังคงใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษเป็นสําคัญ
ผ้าจก เป็นผ้าหน้าแคบที่มีลวดลายสวยงามใช้ประกอบตรงส่วนล่างของซิ่น ซึ่งปกติในชีวิตประจําวันไม่นิยมนํามาใช้เพราะดูแลรักษายาก ประกอบกับการต่อตีนซิ่นทําให้ผ้าซิ่นมีความยาวเพิ่มขึ้น ผ้าที่มีลวดลายสวยงามเช่นนี้จะใช้เฉพาะในงานพิธีสําคัญโดยเฉพาะงานบุญ เมื่อจะใช้ก็เอาตีนซิ่นมาเนากับตัวซิ่น ซึ่งเป็นผ้าพื้นอาจมีลวดลายบ้างแต่ไม่มากและหัวซิ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นผ้าดิบ เมื่อใช้งานเสร็จก็จะเลาะเก็บเอาไว้เพื่อใช้ครั้งต่อไป ผ้าหน้าแคบนี้แต่เดิมใช้หูกในการทอ การขึ้นลายจึงต้องทอลายเป็นแนวนอน ผู้ทอต้องอาศัยการสังเกตความต่อเนื่องของสายไปโดยตลอด
ซิ่นตีนจก คือ ผ้าซิ่นที่มีโครงสร้าง 3 ส่วน คือ ส่วนหัว ส่วนตัว และส่วนตีน ที่ทอด้วยกลวิธีจก การต่อเชิง (ตีนซิ่น) มีลวดลายพิเศษต่างจากผ้าซิ่นที่ใช้ปกติในชีวิตประจําวัน ลวดลายจกที่นําไปต่อซิ่น เรียกว่า “ตีนจก” มีแหล่ง ผลิตสําคัญ (ที่ยังคงไว้ซึ่งลักษณะเฉพาะถิ่น) อยู่ที่อําเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และอําเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย กรรมวิธีการทอผ้าจกเป็นการทอและปักผ้าไปพร้อมๆ กัน
จก คือการทอลวดลายบนผืนผ้าด้วยวิธีการเพิ่มด้าย เส้นพุ่งพิเศษเข้าไปเป็นช่วงๆ ไม่ติดต่อกันตลอดหน้ากว้างของผ้า การจกจะใช้ไม้หรือขนเม่นหรือนิ้วก้อยยกขึ้นจก (ควัก) เส้นด้ายสีสันต่างๆ ขึ้นมาบนเส้นยืนให้เกิดลวดลายตามที่ต้องการ
อนึ่ง ในปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้กี่ขนาดใหญ่ในการทอ จึงมีการทอผ้าตลอดไปเป็นผืน กล่าวคือ ช่วงตีนซิ่นจะทําลายด้วยการจกแบบดั้งเดิมเมื่อจบลายก็จะทอผ้าสีพื้นไปจนสุดขนาดผ้า ทําให้ไม่ต้องต่อตีนซิ่นกับตัวซิ่น เมื่อต้องการจะนำมานุ่ง จึงสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจําวันเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันการผูกลายแนวตั้งก็ทําให้ ผู้ทอสะดวกในการสร้างสรรค์ลวดลายมากขึ้น ความงดงามของผ้าเกิดจากการที่ผู้ทอจะค่อยๆ สอดด้ายที่มีสีสันต่างกันทีละเส้น ทําให้เกิด ลวดลายที่ต้องการ โดยลายที่สร้างสรรค์จะไม่จําเพาะแต่เป็นลายสมมาตร แต่อาจมีการสร้างสรรค์ลายที่สะท้อนความเชื่อของกลุ่มคน เช่น ลายนก ลายพญานาค ลายหม้อน้ํา เป็นต้น
ผู้ทอมักจะเปลี่ยนสีด้ายเมื่อลายหลักจบลายหนึ่งๆ เพื่อให้เห็นความแตกต่างของช่วงลาย จึงทําให้ตีนจกนั้นมีสีสันงดงาม ตีนจกนี้หากเป็นสตรีที่มีศักดิ์สูงหรือเป็นสตรีที่มีสถานะทางสังคมมักจะมีการสอดเส้นทอง (ไหมคํา) หรือเส้นเงิน (ไหมเงิน) เข้าไปด้วยเพื่อให้ลายผ้ามีความวิจิตรมากขึ้น
กลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่มพัฒนาลายจกให้กลายเป็นการจกตลอดทั้งผืน ไม่จําเพาะในส่วน ของตีนซิ่นเท่านั้น แต่ยังคงเรียกผ้าเหล่านี้ว่าผ้า ซิ่นตีนจกอยู่เช่นเดิม
ขอบคุณแหล่งที่มา :
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าตีนจก สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ