ลายผ้าไหมมัดหมี่ เกิดจากจินตนาการของช่างผู้ประดิษฐ์คิดค้น เป็นเอกลักษณะเฉพาะบุคคลของแต่ละท่าน มัดหมี่ในภาคอีสานมีหลากหลาย สืบเนื่องกันมาตามแต่ละยุคสมัย วันนี้ร้านชอบไหมได้รวบรวมลายผ้าต่างๆ อ้จากหนังสือมรดกผ้าไทยในภาคอิสาน ให้ผู้สนใจสามารถเทียบเฉดลาย เพื่อจะได้ทราบชื่อลายได้สะดวกค่ะ มีลายอะไรบ้างใกล้เคียงกับผ้าของเราบ้างมั้ยนะ มาชมกันได้เลยค่ะ
ลายนกยูงคู่
ลายช้างบุษบก นางรำ
ลายช้าง-ดอกไม้
ลายช้าง-ม้า-บายศรี-พุ่มข้าวบิณฑ์
ลายนาคเกี้ยวผสมพุ่มข้าวบิณฑ์
ลายนาคเกี้ยว1
ลายนาคเกี้ยว2
ลายนาคเกี้ยว3
ลายนาคเกี้ยว4
ลายนาคเกี้ยว5
ลายนาคเกี้ยวโคม
ลายตัวอักษรพญานาค
ลายพญานาค ผีเสื้อ
ลายพญานาค-ช้างเอราวัณ
ลายลูกกา
ลายก้านแยง1
ลายก้านแยง
ลายก้านแยงผสมดอกแก้ว
ลายก้านแยงแมงมุม1
ลายก้านแมงมุม
ลายเกร็ดเต่า
ลายขอ1
ลายขอ2
ลายขอไขว้
ลายขอผสมดอกแก้ว
ลายขอผสมดอกแก้ว2
ลายขอล้อมดาว
ลายโคมเจ็ด
ลายดอกกุหลาบ
ลายดอกพิกุล
ลายดอกราตรี
ลายดอกสับปะรด
ลายต้นสน1
ลายต้นสน2
ลายต้นสน3
ลายพวงผกา
ลายใบไผ่ใหญ่
ลายประกายพฤกษ
ลายบัวไทร
ลายพริกไท ดอกกุหลาบ
ลายยกดอกพุ่มข้าวบิณฑ์
ลายยกดอก
ลายยกดอก1
ยกดอก2
ลายปะกาตร็อบ
ลายปราสาท-บายศรี-นางรำ-ม้า-ช้าง
ลายราชวัตรยกดอก ลายนางลำดวนหรืออัปสรา
ลายบุษบก-นางรำ
ลายเศรษฐกษัตริย์
ลายตร็วยสะแน็ค
ลายผ้าปูมพระตะบอง
ลายทะเลวน
ลายพนมเปญ
ลายพระตะบอง1
ลายพระตะบอง2
ลายโกนกระดาม
ลายจ๊ะเขรื่อง
ผ้าอันปรม
ลายละเบิก
ลายหน้าต่าง
ลายสกล1
ลายสกล2
ลายสกล3
ลายสกล4
ลายสับปะรด
ลายแสงเทียน
ลายหมี่คั่น1
ลายหมี่คั่น2
ลายหัวใจ
ลายหางกระรอก 3สี
ลายอันลูนซีน
ลายพริกไทยต้นสน
ลายร้อยเส้น
ลายผ้าทอราชสำนัก
ลายเทพพนม
ลายเต่า
ลายรัตนบุรี
ลายราชวัตร1
ลายรัชวัตร2
ลายราชวัตร3
ลายราชวัตร 4 ตะกอ ลายนกเล็ก
ลายกระแซเบย
ลายสาคูทม
ลายปกากระตีรม
ลายโฮลเปราะห์
ลายผ้าพื้นเรียบ 2ตะกอ
ลายเรือ ลำดวน
ลายผ้าต่อเชิงซิ่น1
ลายผ้าต่อเชิงซิ่น2
ลายผ้าต่อหัวซิ่น1
ลายผ้าต่อหัวซิ่น2
ลายผ้าต่อเชิง
ลายเชิงต่อชาย
ลายขิด
ผ้าขาวม้าลายช้าง
ผ้าขาวม้าลายลูกแก้ว
ผ้าขาวม้าลายหางกระรอก
ลายผ้าขาวม้า
ผ้าขาวม้าลายสก็อต
ผ้าขาวม้าลายหางกระรอก
ผ้าขาวม้าเชิงรูปช้าง
ลายผ้าโสร่งผ้าชาย
ลายโสร่งหางกระรอก
โสร่งลายหางกระรอก
ลายโฮลผู้ชาย
ลายโฮลสีธรรมชาติ
ลายโฮล
ลายสาคู
ลายผ้าคลุมไหล่กวาง-ช้าง
ผ้าคลุมไหล่กุหลาบ
ลายผ้าคลุมไหล่ ราชวัตร4ตะกอ ลายดอกรัก
ลายผ้าคลุมไหล่ ราชวัตร1
ลายผ้าคลุมไหล่ ช้างอวยพรในหลวงครบรอบ 80 พรรษา
ลายผ้าคลุมนกยูง-ดอกไม้
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูง-ไก่
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูงรำแพน
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูง บายศรี ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูงประยุกต์
ลายผ้าคลุมไหล่พริกไท นกยูง-รำแพน
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูง-เชิงเทียน
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูงรำแพนสีฟ้า
ลายผ้าคลุมไหล่ ศีรขรภูมิ
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูงรำแพน
ลายผ้า
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูงรำแพนม้าน้ำ
ลายผ้าคลุมไหล่ลายลูกแก้วนกยูงรำแพน
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูงรำแพน
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูงน้อย
ลายดอกดาวเรือง
ลายผ้าคลุมไหล่ นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูงทอง
ลายผ้าคลุมไหล่ ราชวัตร นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูง-ช้าง
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูงรำแพน-นก
ลายผ้าคลุมไหล่ลายนก
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่นกยูงประยุกต์
ลายผ้าคลุมไหล่ ช้าง-ไก่-นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-นกยูง
ลายผ้าคลุมไหล่ นางรำ ช้าง ม้า ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่พญานาค
ลายผ้าคลุมไหล่พญานาคเกี้ยว
ลายผ้าคลุมไหล่นาคเกี้ยว
ลายผ้าคลุมไหล่นาคเกี้ยว2
ลายผ้าคลุมไหล่พญานาคคู่
ลายผ้าคลุมไหล่นาคเกี้ยว
ลายผ้าคลุมไหล่-นาคเกี้ยวเล็ก
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง
ลายผ้าคลุมไหลนาค-ไก่
ลายผ้าคลุมไหล่ นาคาวารี
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ช้างชูธง
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-บุษบก
ลายผ้าคลุมไหล่ช้างคู่-ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-ม้า
ลายผ้าคลุมไหล่ช้างม้า ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่มัดหมี่ประยุกต์ลายนางรำ
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-บายศรี-ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง-บุษบก-นครวัต
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง ม้า นางรำ
ลายผ้าคลุมไหล่ชนช้างฉลองปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ช้าง กวาง บายศรี ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่โบราณ
ลายผ้าคลุมไหล่มัดหมี่ประยุกต์
ลายผ้าคลุมไหล่ ไก่-ปราสาท
ลายผ้าคลุมไหล่ลายช้าง
ลายไก่
ลายผ้าคลุมไหล่มัดหมี่กุหลาบ-ผีเสื้อ
ลายผ้าคลุมไหล่มัดหมี่ลายลูกแก้ว
ลายผ้าคลุมไหล่มัดหมี่ลายลูกแก้ว1
ลายผ้าคลุมไหล่นครวัตร-นางรำ
ลายผ้าคลุมไหลานางรำ
ลายผ้าคลุมไหล่ผีเสื้อสอดไส้ปลาหมึก
ลายผ้าคลุมไหล่ร้อยเส้น
ลายผ้าคลุมไหล่ลายประยุกต์
ลายผ้าคลุมไหล่นาคเกี้ยวโบราณ
ลายผ้าคลุมไหล่ลายโบราณ
ลายผ้าคลุมไหล่ลูกแก้ว-เทพพนม
ลายผ้าคลุมไหล่ลายลำดวน
ผ้าคลุมไหล่ลายราชรถ
ลายผ้าคลุมไหล่ลายลูกแก้วโบราณ
ลายผ้าคลุมไหล่ลายปารีส
ลายผ้าคลุมไหล่สะเก็ดดาวกลางสายฝน
ลายผ้าคลุมไหล่สายฝน
ลายมัดหมี่ประยุกต์
ลายมัดหมี่โบราณ
ลายมัดหมี่โบราณ2
ลายนางลำดวน
ลายนางรำ
ลายมัดหมี่พญานาค
ลายหน้านางช้าง ม้า
ลายไก่-กวาง
ลายผ้ากะนิวหรือหางกระรอก
ลายดอกพิกุล
ลายก้านแยง
ลายโบราณ2ย้อมคราม
ลายพริกไทย-ต้นสน
ลายมัดหมี่ประยุกต์
ลายผ้าหางกระรอก
ลายผ้าไหมพื้นเรียบย้อมสีครั่ง
ลายสับปะรด
ลายเต็มโฮลเปราะห์
ลายมัดหมี่คั่นดอกพิกุล
ลายโฮลสเรย์
ลายโฮลประยุกต์
ลายพริกไท
ลายพนมเปญ
ลายพริกไทย-ลายนาคใหญ่
ลายพุ่มข้าวบิณฑ์
ลายมัดหมี่ 3ตะกอเขียว
ลายมัดหมี่ 3ตะกอ
ลายมัดหมี่ต้นสน
ลายมัดหมี่ต้นสนเล็ก
ลายมัดหมี่ต้นสนสีแดง
ลายมัดหมี่โบราณ
ลายมัดหมี่ต้นสนประยุกต์
ลายมัดหมี่ต้นสน2
ลายมัดหมี่ต้นสน3
ลายลูกแก้วมัดหมี่ต้นสน2
ลายลูกแก้วมัดหมี่ประยุกต์
ลายลูกแก้วมัดหมี่นาคเกี้ยวเล็ก
ลายมัดหมี่นาคเกี้ยว
ลายนาคเกี้ยวประยุกต์
ลายมัดหมี่ประยุกต์
ลายมัดหมี่ประยุกต์2
ลายมัดหมี่ประยุกต์3
ลายมัดหมี่4
ลายมัดหมี่1
ลายมัดหมี่โบราณ2
ลายมัดหมี่โบราณ3
ลายมัดหมี่โบราณ4
ลายมัดหมี่โบราณ5
ลายมัดหมี่โบราณ6
ลายมัดหมี่โบราณ7
ลายมัดหมี่โบราณ8
ลายมัดหมี่โบราณ9
ลายมัดหมี่โบราณ10
ลายมัดหมี่นกยูง
มัดหมี่ลายไก่
ลายมัดหมี่ประยุกต์
ลายมัดหมี่ประยุกต์1
ลายมัดหมี่ประยุกต์2
ลายมัดหมี่ประยุกต์3
ลายมัดหมี่ต้นสน1
ลายมัดหมี่ต้นสน2
ลายมัดหมี่ต้นสนเล็กผสม
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์1
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์2
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์3
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์4
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์5
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์8
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์9
ลายมัดหมี่โบราณประยุกต์10
มัดหมี่ 3ตะกอลายลูกแก้ว
ลายผ้าทอยกดอก
ลายยกดอกดิ้นทอง
ลายยกดอกดิ้นทองลายโบราณ
ลายยกดอกดิ้นทองสีเขียว
ยกดอกลายโคมหลวง
ยกดอกลายไทย
มัดหมี่ลายนกยูง
มัดหมี่ลายร่างแห
มัดหมี่หน้านาง นาคเกี่ยว
ลายราชวัตร-นางลำดวน
ลายราชวัตร-นางอัปสรา
ลายราชวัตร-ดอกรัก-นก
ลายราชวัตร ต้นสน
ลายราชวัตร-นางรำ
ลายราชวัตร หมี่ขอ-ไก่
ราชวัตรลายนกยูง
มัดหมี่ลายโบราณ
ผ้าสมปักปูม
ลายเรือสุพรรณหงส์
ลายละเบิก
ลายพญานาค
ลายขอ1
ลายขอ2
ลายฉัตร3ชั้น
ลายมัดหมี่ต้นสน
ลายไทยประยุกต์
ลายโบราณ
ลายผ้าพระตะบอง
ลายมัดหมี่ประยุกต์ผสมลายโบราณ
ลายลูกกา
ลายลูกแก้วยกดอก
ลายลำดวน
ลายลูกแก้วมัดหมี่ต้นสน
ลายลูกแก้วมัดหมี่ประยุกต์
ลายลูกแก้วมัดหมี่ประยุกต์1
ลายลูกแก้วมัดหมี่ลายต้นสน
ลายลูแก้ว-บายศรี
ลายลูกแก้ว
ลายหมี่คั่น1
ลายแก้วชิงดวง
ลายโฮลประยุกต์
ลายโสร่งเสร็ย
ลายโสร่งตาราง
ลายโสร่ง
ลายโฮลเปราะห์ทับทิม
ลายโฮลปะเตื๊อด
ลายโฮลเปราะห์โบราณ
ลายโฮล
ลายโฮลเปราะห์
ลายโฮลเปราะห์
ลายโฮลหน้านาง
ลายโฮล2
ผ้าสมปักปูมโบราณ
ผ้าสมปักปูม1
ผ้าสมปักปูม2
ลายผ้าปูมท้องผ้านกยูง
ลายผ้าโฮล1
ลายผ้าสมปักปูมเชิงกรวยโบราณ
ลายผ้าสมปักปูมนาค เชิงเทียน
ลายนาคี
ลายอัมปรม
ลายขอนารี อุ้มลายโคมเก้า มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสาน
ลายเครือขอกูด มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสาน
ผ้าซิ่นของชาวภูไท/ผู้ไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มชาวภูไท อําเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นิยมใช้สีสันโทน “สีมืดเข้ม” โดยลวดลายมัดหมี่บางลวดลายจะมีความสัมพันธ์กับลวดลายผ้าแพรวา เช่น ลาย นาค ลายใบอุ่น ลายหางปลาวา ฯลฯ ส่วนลายผ้ามัดหมี่กลุ่มชาวภูไท จังหวัดมุกดาหารนั้น จะใช้ผ้าซิ่นหมี่ฝ้ายย้อมสีคราม ในชีวิตประจําวัน ส่วนซิ่นหมี่ไหมใช้ในงานพิธีสําคัญ โดยจะนิยมย้อมสีโทนม่วง ที่เรียกกันว่า “สีปะโด”
นอกจากนี้ยังมีผ้าที่มีลวดลายสัมพันธ์กับชาวไท-ลาว เมืองอุบลฯ คือ “ซิ่นทิว” ที่มีลวดลายเป็นริ้วสีแดงสลับสีดํา แนวขวางลําตัว เป็นผ้าที่เก็บรักษาไว้สําหรับนุ่งใน “พิธีเหยา” เลี้ยงผีบรรพบุรุษ กลุ่มแม่เมือง หมอเหยา ที่เป็นเพศหญิง จะถือคติว่าจะต้องนุ่งผ้า “ซิ่นทิว” ตามความต้องการของผีบรรพบุรุษ ซึ่งช่วยทําให้ผ้าซิ่นทิว ยังคงมีการสืบทอดการทอ อยู่บ้างในจังหวัดมุกดาหาร แต่ชาวภูไทจะนิยมทอใช้เพียง “ซิ่นทิว โทนสีแดง” (เครือสีแดงสลับสีดํา) เท่านั้น ไม่ได้มีการ ใช้สีสันหลายแบบดังปรากฏที่จังหวัดอุบลราชธานี
ลายนาคหัวซ้อง นาคหัวสร้อย มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสาน
บายขออุ้มหน่วย มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสาน
ประเภท:ลวดลายผ้าซิ่นชาวภูไท (จังหวัดกาฬสินธุ์)ลวดลายทอด้วยเทคนิคมัดหมี่เส้นพุ่ง (มัดกั้นสีเฉพาะเส้นพุ่ง) ระบบ Weft-Faceลวดลาย และโครงสร้างลาย: ผ้าซิ่นหมี่ไหม (มัดหมี่รวด)ชื่อ ลายขออุ้มหน่วย วัสดุเส้นใยและสีสันไหม มัดหมี่ย้อมสีครามเข้มสีแดง สีเหลือง สีขาว เจ้าของตัวอย่างผ้าผศ.ดร.สิทธิชัย นานชาติ
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ ลวดลายผ้าซิ่นตีนแดงของจังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มนี้พยายามสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยเทคนิคการแยกเครือสีแดงมาใช้สําหรับส่วนตีนซิ่น ซึ่งต่อมาประยุกต์ใช้เครือสีแดงในส่วนขอบผ้าทั้งส่วนตีนซิ่นและส่วนต่อส่วนเอวซิ่น โดยส่วนกลางตัวซิ่นจะใช้เครือสีครามเข้มหรือสีดํา โดยใช้เส้นยืนสีขาวหนึ่งเส้นตั้งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนรอยต่อ จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณที่สํารวจพบได้ข้อสังเกตว่า ลักษณะสีสันและลวดลายของผ้าซิ่นตีนแดงน่าจะเป็นการผสมผสานหลายวัฒนธรรมในบริเวณอีสานตอนล่าง สีโทนแดงที่สัมพันธ์กับสีสันผ้ามัดหมี่โฮลประโบลของชาวไทยเชื้อสายกูยและเชื้อสายเขมร ส่วนลวดลายมัดหมี่กลับนิยมใช้ลายที่มีสัญลักษณ์ร่วมกับชาวไท-ลาว ในด้านเทคนิคการทอผ้าจะนิยมทอเสริมลวดลายด้วยเทคนิคการ “ขุด” (เสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบต่อเนื่อง) และการ “จก” (เสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบไม่ต่อเนื่อง) ในส่วนรอยต่อเครือสีแดงและเครือสีครามเข้มหรือสีดํา และทอเสริมลายในส่วนเชิงตีนซิ่นให้สวยงาม โดยเมื่อนํามาเปรียบเทียบกับผ้าซิ่นโฮลประโบล ทําให้มีข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นการประยุกต์ปรับเทคนิคการทอผ้าที่สามารถสร้างลวดลายส่วนตีนซิ่นคล้ายลาย “ประโบล” และ “เสลิก” ได้ง่ายขึ้นกว่าการทอแยกชิ้นแล้วนํามาเย็บประกอบกับส่วนตัวซิ่น ซึ่งน่าจะทอขึ้นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เพราะพบตัวอย่างผ้าโบราณที่อายุ นับ 100 ปี เป็นการทอแยกชิ้นระหว่างส่วนตัวซิ่นและส่วนตีนซิ่น แล้วจึงนํามาเย็บประกอบกันเป็นผ้าซิ่น ลวดลายผ้าส่วนใหญ่นิยมทอลายพันธุ์พฤกษาด้วยโครงสร้างลายผ้ามัดหมี่แบบ “หมี่รวด” หรือ “หมี่ร่าย” แต่ไม่พบโครงสร้างลายแบบ “หมี่คั่น”
มรดกลวดลายผ้าแห่งแดนอีสานใต้ (อีสานตอนล่าง) ที่เด่นอีกประเภท คือ ลวดลายผ้าซิ่นมัดหมี่โฮลของชาวกูย ส่วย และชาวไทยเชื้อสายเขมรที่อาศัยอยู่บริเวณจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดศรีสะเกษ จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณพบว่ามีเอกลักษณ์พิเศษที่ส่วนตีนซิ่น ต่อด้วย “ประโบล” ซึ่งใช้เทคนิค “มัดหมี่” ในการสร้างลวดลายผ้าหน้าแคบเพื่อตกแต่งเป็นส่วน “ตีนซิ่น” โดยกลุ่มช่างทอผ้าในเขตจังหวัดสุรินทร์จะนิยมทอมัดหมี่ส่วนตัวซิ่นเป็น “ลายใบไผ่” ด้วย “โครงสร้างลายแบบผ้าซิ่นหมี่คั่น” เนื่องจากใช้นั่งโดยผู้หญิงจึงเรียกว่า “โฮล-สไรย์” (แปลว่า ผ้าโฮลของสตรี ผู้หญิง) ซึ่งเป็นการ สลายลายผ้ามัดหมี่ “โฮล-เปราะห์” (แปลว่า ผ้าโฮลของบุรุษผู้ขาย) ของผู้ขายที่เป็น “ผ้าปูม” นํามาทอเรียงใหม่ให้กลายเป็นลายริ้วง่ายๆ ส่วนกลุ่มช่างทอผ้าในจังหวัดศรีสะเกษจะนิยมสร้างสรรค์ลายมัดหมี่โฮลในส่วนตัวซิ่นตามจินตนาการ ที่มักทอด้วย “โครงสร้างลวดลายทั้งแบบผ้าซิ่นหมี่รวดหรือผ้าซิ่นหมี่คั่นลายใหญ่ๆ” โดยจะต่อตีนซิ่นด้วย “ประโบล” และขิดริมตีนซิ่นที่เรียกว่า “เสลิก” (ทอแบบยกมุกเสริมเส้นยืน พิเศษ) บางชุมชนจะใช้ซิ่นไหมควบ “อันลูนซึม” มาต่อตีนซิ่นแบบ “ประโบล” ก็เป็นความสวยงามที่เรียบง่าย
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่มีความงดงามแบบชนชั้นสูง คือ ลวดลายผ้าซิ่นเมืองอุบลฯ จังหวัดอุบลราชธานี จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานีและคลังสะสมที่เกี่ยวข้องกับเจ้านายเมืองอุบลฯ ทำให้ได้ข้อสังเกตว่า ลวดลายผ้าซิ่นจะนิยมทอด้วยเทคนิค “ขุด” (ทอเสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบต่อเนื่อง) ด้วยเส้นใยดิ้นเงินดิ้นทอง เช่น ลายกาบพร้าว ลายกาบหมาก เป็นต้น ส่วนเส้นไหมจะใช้ไหมพื้นบ้านที่เลี้ยงในท้องถิ่น สําหรับจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์คือส่วนหัวซิ่น นิยมทอตกแต่งลายด้วยเทคนิคการ “ลูก” (เสริมเส้นพุ่ง พิเศษแบบไม่ต่อเนื่อง) เช่น ลายดาว ลายดอกแก้ว ลายกาบพร้าว เนื่องจากลายดาวนิยมแพร่หลายจึงเรียกผ้าซิ่นแบบนี้ว่า “ซิ่นหัวจุกดาว”
ส่วนตีนซิ่นนั้นมีการประยุกต์ลายกรวยเชิงของราชสํานักสยามมาทอด้วยเทคนิคท้องถิ่น เรียกว่า “ตีนตวย” (คําว่า “สวย” แปลว่า “กรวย”) โดยมีลายขิดตีนซิ่นอื่นๆ อีกเช่น ลายตีนกระจับย้อย (กระจับควาย) ลายตีนช่อดอก ก้านของ (ดอกปีบ) เป็นต้น ส่วน “ผ้าซิ่นทิว” ในภาคอีสานมีสีสันเพียง “โทน สีแดง-ดํา” แต่เมืองอุบลฯ มีการออกแบบสีสันเพิ่มเติมเป็น “โทนสีคราม-แดง” “โทนสีเขียว-ดํา” และ “โทนสี แดง-คราม” ดังพบหลักฐานผ้าในฮูปแต้ม วัดทุ่งศรีเมือง และมีการประยุกต์เครือผ้าซิ่นทิวผสมกับเทคนิคการทอยกมุก (เส้นยืนพิเศษ) ชื่อว่า “ซิ่นทิวมุกจกดาว” สําหรับใช้ในหมู่เจ้านายเมืองอุบลฯ ระดับสูงชั้นอัญญานาง
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่เพิ่งมีการเปิดเผยต่อสาธารณะ คือ จากการวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณ ได้พบข้อสังเกตว่า ลวดลายผ้าซิ่นไท-เลยนับเป็นสิ่งทอกลุ่มย่อยหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไท-ลาว แต่มีลวดลายผ้าที่เป็นแบบเฉพาะตัว ทั้งสีสันและลวดลายโดยผ้าซิ่นทุกผืน ส่วนใหญ่จะนิยมทอด้วยโครงสร้างมัดหมี่คั่น (ทอสลับลายริ้ว) ลายหมี่ข้อหรือลายมัดหมี่ขนาดเล็ก โดยนิยมใช้สีโทน ม่วง-ชมพู ส่วนตีนซิ่นนั้นจะนิยมใช้ตีนซิ่นแบบ “ตีนตําแหนะ” หรือ “ตีนยกดอกเงินดอกคํา” ที่ใช้ดิ้นโลหะเงินทอสําหรับกลุ่มเจ้านายหรือคหบดี ส่วนคนสามัญอาจจะใช้เส้นฝ้ายแทน ซึ่งได้ข้อสังเกตว่าผ้ากลุ่มนี้จะทอด้วยวัสดุที่ค่อนข้างล้ําค่า (น่าจะนําเข้ามาจากฝรั่งเศสผ่านเมืองเวียงจันทน์) ชุมชนที่เมืองเลยนี้จึงอาจมีความเกี่ยวพันกับสายสกุลจากเจ้านายราชสานักล้านช้างแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป. ลาว)
มรดกลวดลายผ้าที่เป็นอัตลักษณ์แห่งภาคอีสาน คือ “ลวดลายผ้าขิด” ของชาวภูไท/ผู้ไทย ชาวไท-ลาว และกลุ่มชาติอื่นๆ จากการสํารวจตัวอย่างผ้าโบราณช่วง พ.ศ. 2538 ถึงปัจจุบัน พบว่าภูมิปัญญาการออกแบบ ลวดลายผ้าขิดแบบดั้งเดิมได้สูญหายไปเป็นจํานวนมาก เพราะสังคมและบ้านเรือนที่เปลี่ยนไป ในขณะที่มรดกสิ่งทอในอดีตมีความหลากหลายทั้งเครื่องแต่งกายและเคหะสิ่งทอที่ทอด้วยเทคนิคขิด (เสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบต่อ เนื่อง) เช่น ผ้าแส่ว (ผ้าแม่แบบลายขิด) หมอนขิด ผ้ากั้นส่วม (ผ้ากั้นห้องหอลูกสาว) ผ้าแพรวาขิด ผ้าแพรขิด
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งไหมไทย คือ ลวดลายผ้า ไหมแพรวา (จก) ของบ้านโพน อําเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งต่อมากระจายการทอไปพื้นที่ใกล้เคียง จาก การวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณพบว่า ช่างทอชาวภูไทใช้เทคนิคการทอผ้าแพรวาด้วยการ “จก” (เสริมเส้น พุ่งพิเศษแบบไม่ต่อเนื่อง) ซึ่งในอดีตทอลวดลายด้วยโครงสร้างลายที่ไม่เหมือนกันตลอดแนวระนาบเดียวกัน แต่ในปัจจุบันปรับเปลี่ยนลายทอเพื่อให้สามารถนําไปใช้ตัดเสื้อผ้า ดั้งเดิมผ้าแพรวาหนึ่งผืนมักจะประกอบ ด้วยลายหลัก 9 - 13 ลาย มีลายคั่นระหว่างลายหลักและจบด้วยลายเชิง โดยดั้งเดิมนิยมทอลายหลักไม่ซ้ํา กันและใช้สีสันเครือเส้นยืนสีแดง แล้วทอ “จก” เสริมเส้นด้ายพุ่งพิเศษด้วยสีเหลือง สีเขียว สีคราม สีขาว ตาม จังหวะลวดลาย มรดกลวดลายดั้งเดิม เช่น ลายพันมหา ลายใบอุ่น ลายกาบแบด ลายหางปลาวา ลายแมง กะเบ้อ (ผีเสื้อ) ลายก้ามปู ลายดอกฮูดัง (จมูก) ลายดอกส้าน ลายดอกดาวหว่าน ลายดอกแง้ว ลายปีกดอกขวา ลายดอกแก้ว ลายตาบ้ง ลายดอกผักแว่น ลายม้า ลายช้าง ลายมอม ลายนาค ฯลฯ
โดยทอ “ผ้าแพรมน” ที่มีขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพื่อใช้เป็นผ้าอเนกประสงค์และพันตกแต่งศีรษะใน งานพิธีกรรมสําหรับฝ่ายหญิงส่วนฝ่ายชายนั้นใช้ “ผ้าตุ้ม” ที่ทอผสมระหว่างการ “จก” (เสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบไม่ต่อเนื่อง) ตกแต่งส่วนเชิงผ้า และทอด้วยการ “ขุด” (เสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบต่อเนื่อง) ในส่วนท้องผ้า ดังนั้นในบางครั้ง ชาวบ้านจึงเรียกว่า “แพรขิด” ทั้งๆ ที่มีการทอตกแต่งด้วยการจก แต่ชุมชนส่วนมากจะเรียกผ้าตามการใช้สอย ว่า “ผ้าตุ้ม” (การตุ้ม คือ การห่มไหล่)
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่คนไม่ค่อยรู้จักกันนัก คือลวดลายผ้าเทคนิคยกมุก (เสริมเส้นยืนพิเศษ) จากการวิเคราะห์ตัวอย่าง ผ้าโบราณ ได้พบว่า มีลวดลายผ้าทอในพื้นที่ภาคอีสานที่ใช้เทคนิคเสริม เส้นยืนพิเศษนี้ ได้แก่ “ลวดลายผ้าจ่อง” (ชาวภูไท จังหวัดมุกดาหาร และ ชาวกะเลิง จังหวัดนครพนม) ชาวภูไทนิยมทอผ้าจ่อง “ลายเอี้ย” (นิ้วหยัก ฟันปลา) ส่วนชาวกะเลิงสามารถทอผ้าจ่อง “ลายนาค” ที่งดงาม สําหรับ “ลวดลายผ้าซิ่นทิวมุก” (ชาวไท-ลาว จังหวัดอุบลราชธานี) จะทอลายขีด เป็นเส้นๆ ส่วนลวดลายตีนผ้าซิ่น “เสลิก” (ชาวไทยเชื้อสายเขมรและกูย จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดสุรินทร์) มีลวดลายหลายแบบและประยุกต์ ลวดลายใหม่ๆ ส่วนไท-ลาว ชาวไทญ้อ ชาวไทโส้ในหลายจังหวัดจะนิยมทอ ตีนซิ่นที่เรียบง่ายเรียกว่าลวดลาย “ตีนผ้าตําแหนะ”
เทคนิคการสร้างลวดลายเทคนิค “ยกมุก” (เสริมเส้นยืนพิเศษ)นั้นจะใช้เครือเส้นยืน ๒ ชุด เครือเส้นยืนชุดหนึ่งจะตั้งไว้ระดับสูงกว่าเครือ เส้นยืนชุดที่สองและใช้ระบบลูกตุ้มหินหรือปูนช่วยถ่วงในการขัดตะกอลายผ้า ที่คล้ายคลึงกันซึ่งในปัจจุบันหลายชุมชนขาดการสืบทอด บางชุมชนพยายาม ฟื้นฟูการทอผ้าเทคนิคนี้ขึ้นมาใหม่ เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาสิ่งทออีสานให้ ลูกหลานได้เรียนรู้
มรดกลวดลายผ้าในภาคอีสานที่เป็นลวดลายพื้นฐาน คือ ลวดลายโสร่ง และผ้าขาวม้า ซึ่งจากการวิเคราะห์ตัวอย่างผ้าโบราณพบว่า ลวดลายผ้าเป็นมรดกร่วมกัน ในหลายกลุ่มชาติพันธุ์ในทวีปเอเชีย ที่รับอิทธิพลลวดลาย ผ้าโสร่งฝ้ายและผ้าขาวม้าฝ้ายมาจากอินเดีย ในกรณีภาคอีสานนั้นได้ปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นวัสดุเส้นใยไหมสําหรับผ้าโสร่ง ส่วนผ้าขาวม้าใช้ทั้งฝ้ายและไหม สําหรับลวดลาย ผ้าโสร่งในภาคอีสานนิยมทอด้วย “ลายตารางขนาดใหญ่”คล้ายคลึงกัน แต่จะมีการจัดสีสันแตกต่างกันไปตามรสนิยมเฉพาะท้องถิ่น เช่น โสร่งชาวภูไท จังหวัดกาฬสินธุ์ นิยมทอ ด้วยสีสันมืดคล้ำ โสร่งชาวกูย จังหวัดศรีสะเกษ นิยมทอด้วย สีสันคล้ายน้ําหมาก ประกอบด้วย สีแดง สีส้ม สีเขียว สีขาวส่วนโสร่งชาวไท-ลาว จังหวัดอุบลราชธานี นิยมทอสีสันสว่าง หวานด้วย สีม่วง สีเหลือง สีชมพู สีขาว เป็นต้น
ผ้าขาวม้าฝ้ายลายตารางใหญ่ชาวอีสานเรียกว่า ส่วนผ้าขาวม้าฝ้ายตารางเล็กมีเส้นขาวคาดจะ“ลายตาโล้” เรียกว่า “ลายตาหม่อง” หรือ “ตาละเลียง” ส่วนผ้าขาวม้าไหม เรียกว่า “แพรไส้ปลาไหล” หรือ “แพรไส้เอี่ยน” (เอี่ยน- ปลาไหล) ที่ทอเป็นลายริ้วเล็กถี่ๆ ตลอดทั้งผืนยกเว้นส่วน เชิงผ้าที่เว้นเป็นแถบทางยาวแบบผ้าขาวม้าทั่วไป โดยบางผืน มีการเพิ่มเทคนิคการควบเส้นใยแบบหางกระรอก เพื่อเพิ่มมิติในลวดลายผ้า โดยชาวภูไทจังหวัดมุกดาหารในอดีตนิยมย้อมผ้าแพรไส้ปลาไหลด้วยสีโทนม่วงซึ่งเรียกกันว่า “แพรสีปะโด”
ขอบคุณแหล่งที่มา : หนังสือ Surin Silk Threads Culture ผ้าไหมสุรินทร์สายใยวัฒนธรรม
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ