การย้อมสีธรรมชาติ คือ การทำให้วัสดุเส้นใยหรือสิ่งทอที่ทำจากไหม เปลี่ยนแปลงจากสีเดิมเป็นสีที่ต้องการ โดยใช้สารธรรมชาติที่ทำให้เกิดสี ซึ่งเรียกว่า “สีย้อม”
การย้อมสีธรรมชาติในภาคอีสานของประเทศไทยนั้นเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่ได้ถ่ายทอดสืบต่อกันมาด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิด ในอดีตไม่มีสีย้อมวิทยาศาสตร์หรือสีสำเร็จรูป สีสันต่างๆ จึงมาจากธรรมชาติรอบตัว เช่น ส่วนต่างๆ ของพืช สัตว์ และแร่ธาตุ ช่างทอผ้าค้นคว้าทดลองต่อเนื่องกันมาจนเป็นองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับบริบทของชุมชน
วัสดุย้อมสีธรรมชาติ แต่ละชนิดให้เฉดสีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
ผ้าไหมมัดหมี่ 4 - 12 ตะกอ สีธรรมชาติ
เฉดสีเหลือง
- “เข หรือ แกแล” ใช้แก่นจากต้นไม้ชนิด Mactura cochinchinensis (Lour.) Corner ชื่อวงศ์ : Moraceae ชาวบ้านจะสับแก่นไม้เขมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสีย้อมได้สีเหลืองเข้ม หรือ จางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้
- “ทับทิม” ใช้เปลือกแห้งจากผลจากต้นไม้ชนิด Punica granatum L. ชื่อวงศ์ : Punicaceae ชาวบ้านจะสับเปลือกผลทับทิมมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีเหลืองเข้ม หรือจางลง ขึ้นกับ อายุและพันธุ์ของผลทับทิม
- “ประโหด” ใช้เปลือกแห้งจากต้นไม้ชนิด Garcinia duleis Kurz. ชื่อวงศ์ : Guttiferae ชาวบ้าน จะสับเปลือกต้นประโหดมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีเหลืองมะนาวสด หรือจางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้

เฉดสีแดง
- “ครั่ง” เป็นเพลี้ยหอยชนิด Laccifer lacca ในวงศ์ : Lacciferidae ตัวเมียไม่มีปีก เมื่อเป็น ตัวอ่อนระยะแรกนั้น มีขาและหนวด เคลื่อนไหวได้ เมื่อลอกคราบจึงหยุดอยู่กับที่ ดูดกินน้ําเลี้ยงจาก ไม้ยืนต้นและผลิตสารที่เรียกว่า ขี้ครั่ง ซึ่งนิยม “ย้อมร้อน” กับเส้นใยไหมได้สีโทนแดง
- “ฝาง” (Sappan wood) เป็นแก่นจากต้นไม้ชนิด Caesalpinian sappan Linn. ชื่อวงศ์ : Leguminosae ไม้ฝางในประเทศไทยนั้นมี 2 ชนิด ชนิดหนึ่งแก่นสีแดงเข้ม เรียกว่า “ฝางเสน" อีกชนิดหนึ่งแก่นสีเหลือง เรียกว่า “ฝางส้ม” ใช้การ “ย้อมร้อน” ทั้งเส้นใยฝ้ายและไหมได้สีโทนแดง
- “ประดู่” ใช้เปลือกจากต้นไม้ชนิด Pterocarpus macrocarpus. ชื่อวงศ์ : Leguminosae ชาวบ้านจะถากเอาเนื้อติดเปลือกมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสีย้อมได้สีน้ําตาล หรือสีน้ําตาลอ่อนลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้
- “รากยอป่า” เป็นรากจากต้นไม้ชนิด Morinda citrifolia Linn. ในวงศ์ Rubiaceae ใบคล้ายใบหูกวางแต่สีเขียวเข้มและหนากว่า รากมีสีแดง รากยอป่า นิยมใช้ “ย้อมร้อน” กับเส้นใยฝ้ายได้สีโทนแดง
- “อะราง" ใช้เปลือกจากต้นไม้ชนิด Peltophorum dasyrachis (Miq.) Kurz ex Baker ชื่อวงศ์ : Fabaceae หรือต้นนนทรี ชาวบ้านจะถากเอาเนื้อติดเปลือกมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีน้ําตาลอมแดง หรือสีอ่อนลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้
- “สีเสียด” ใช้เปลือกจากต้นไม้ชนิด Acacia catechu (Linn).f. Willd. ชื่อวงศ์ : Leguminosae ชาวบ้านจะถากเอาเนื้อติดเปลือกมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีน้ําตาลเข้ม หรือสีน้ําตาล ขึ้นกับอายุของต้นไม้

เฉดสีน้ำตาล
- “กระโดน” ใช้เปลือกและเนื้อแห้งจากต้นไม้ชนิด Careya sphaerica Roxb. ชื่อวงศ์ : Lecythidaceae ชาวบ้านจะสับเปลือกเนื้อต้นกระโดนมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสีย้อมได้สีน้ําตาล อมเทาหรือสีจางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้
- “มะยม” ใช้เปลือกและเนื้อจากต้นไม้ชนิด Phyllanthus acidus (L.) Skeels. ชื่อวงศ์ : Phyllanthaceae ชาวบ้านจะสับเปลือกเนื้อต้นมะยมมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีน้ําตาล อมเทาหรือสีจางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้
- “คูน” ใช้ฝักและเนื้อในฝักจากต้นไม้ชนิด Cassia fistula Linn. วงศ์ : Caesalpiniaceous ชาวบ้านจะสับฝักคูนให้เห็นเนื้อในฝักคูนมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสีย้อมได้สีน้ําตาล หรือสีจางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้ ส่วนเปลือกคูน ย้อมได้สีเทา

ผ้าไหมมัดหมี่ 2 ตะกอ สีธรรมชาติ
เฉดสีเขียว
- “ใบหูกวาง” ใช้ใบจากต้นไม้ชนิด Terminalia catappa Linn. ชื่อวงศ์ : Combretaceae ชาวบ้านจะสับใบหูกวางมา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสีย้อมได้สีเขียวอมเหลือง หรือจางลง ขึ้นกับอายุ ของต้นไม้
- “เพกา” ใช้เปลือกและเนื้อจากต้นไม้ชนิด Oroxylum indicum Vent. ชื่อวงศ์ : Bignoniaceae ชาวบ้านจะสับเปลือกเนื้อต้นเพกามา “ย้อมร้อน” ต้มสกัดน้ําสี ย้อมได้สีเขียวหรือสีจางลง ขึ้นกับอายุของต้นไม้

เฉดสีดำ
- “มะเกลือ” ใช้ผลดิบจากต้นไม้ชนิด Diospyros mollis Griff ชื่อวงศ์ : Ebenaceae ชาวบ้าน จะทุบผลดิบของต้นมะเกลือเพื่อให้ได้น้ํายางสีขาวมาใช้ย้อมจะ “ย้อมเย็น” หรือ “ย้อมร้อน” ก็ได้ จะได้สีเทาหรือสีดําเข้ม ขึ้นกับจํานวนครั้งที่ย้อม

ผ้าไหมมัดหมี่ 3 ตะกอ สีธรรมชาติ
เฉดสีฟ้าคราม
- “ห้อม” ใช้กิ่งและใบจากต้นไม้ชนิด Baphicacanthus cusia (Nees) Bremek. ชื่อวงศ์ : Acanthaceae ชาวบ้านจะตัดใบห้อมมาหมักเพื่อก่อหม้อห้อมแบบการ “ย้อมเย็น” สกัดน้ําสี ย้อมได้สีครามเข้ม หรือความอ่อน ขึ้นกับจํานวนครั้งของการจุ่มย้อม
- “คราม” ใช้กิ่งและใบจากต้นไม้ชนิด Indigofera tinctoria Linn. ชื่อวงศ์ : Leguminosae ชาวบ้านจะตัดใบครามมาหมักเพื่อก่อหม้อครามแบบการ “ย้อมเย็น” สกัดน้ําสี ย้อมได้สีครามเข้ม หรือครามอ่อน ขึ้นกับจํานวนครั้งของการจุ่มย้อม
- “ครามเถา” ใช้เถาและใบจากต้นไม้ชนิด Marsdeniatinctoria ชื่อวงศ์ : Asclepiadaceae ชาวบ้านจะตัดเถาใบครามเถา (ต้นเบิก) มาหมักเพื่อก่อหม้อครามแบบการ “ย้อมเย็น” สกัดน้ําสี ย้อมได้สีครามเข้ม หรือความอ่อน ขึ้นกับจํานวนครั้งของการจุ่มย้อม

ขอบคุณที่มา : หนังสือมรกดภูมิปัญญาสิ่งทออีสาน
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ