ลวดลายของผ้าไหมมัดหมี่พื้นเมือง
ผ้าไหมแท้ทอมือซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดกันมาหลายปี ทั้งเรื่องวิธีการทอ และการมัดหมี่เพื่อย้อมผ้า ก่อนนำมาทอให้เกิดลวดลาย ซึ่งลวดลายผ้าไหมพื้นเมืองของชาวบ้าน มักได้รับอิทธิพลหรือแรงบันดาลจะมาจากสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบตัว ลวดลายผ้าไหมมัดหมี่พื้นเมือง เกิดจากวัฒนธรรมความเป็นอยู่ดั้งเดิมของชาวบ้านท้องถิ่น ที่ได้แรงบันดาลใจจากสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวในชีวิตประจำวัน หากจะแบ่งหมวดหมู่ลายทอผ้าไหมมัดหมี่ อาจจะแบ่งจากอิทธิพลจากสิ่งรอบตัวได้ 3 หมวดเรื่องราวดังนี้
-
ลวดลายผ้าไหมจากความเชื่อทางศาสนา และประเพณี
-
ลวดลายผ้าไหมที่ได้อิทธิพลจากสัตว์ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสัตว์มงคล
-
ลายที่ได้รับอิทธิพลจากพืช
* ลวดลายผ้าไหมจากความเชื่อทางศาสนาและประเพณี
- ลายหอปราสาท: ตามความเชื่อของชาวบ้านว่า ปราสาทเป็นที่ที่ผู้มีวาสนาหรือผู้มีบุญอาศัยอยู่ เช่น พระเจ้าแผ่นดินและ พระสงฆ์คนสามัญธรรมดาจะอาศัยอยู่ไม่ได้ฉะนั้นเวลาชาวบ้านจะทอผ้าไปถวายพระ หรือผู้มีบุญจะต้องทอด้วยลายนี้ทั้งนี้ชาวบ้านได้รับ ส่วนบุญ ส่วนกุศลไปด้วยและไม่นิยมนำมานุ่งเพระถือว่าเป็นของสูง
- ลายใบสิม: ชาวบ้านมีความเชื่อว่าโบสถ์ หรือสิม เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เพราะว่าโบสถ์หรือสิมเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่เป็นองค์ประธานของวัดถ้าชาวบ้านคนใดสามารถมัดหมี่เป็น ลายนี้ได้ถือว่า คนนั้นได้บุญกุศล เมื่อตายไป จะได้ขึ้นสวรรค์
- ลายพญานาค: ชาวบ้านมีความเชื่อว่านาคเป็นเจ้าแห่งงูทั้งหลายที่นำความอุดมสมบูรณ์มาให้กับชาวโลกฉะนั้นถ้าใครสามารถทำลายเป็นรูปพญานาคได้คนนั้นจะได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวแทนของความอุดม สมบูรณ์การทำลายพญานาคมีแต่คนที่มี อายุเท่านั้นที่สามาทำได้เพราะว่าคนที่มีอายุเป็นที่เคารพและยำเกรงของคนทั่วไป
- ลายธรรมมาสน์: ธรรมาสน์นี้เป็นที่แสดงธรรมของพระสงฆ์ ถ้าชาวบ้านคนใดทำมัดหมี่ด้วยลายนี้แล้วจะได้บุญกุศลสามัญธรรมดาจะขึ้นไปนั่งเล่นไม่ได้เพราะธรรมาสน์ถือเป็นของสูงเวลาชาวบ้านจะ มัดหมี่เพื่อถวายพระในงานบุญจะต้องมัดหมี่ ด้วยลายธรรมาสน์นี้หรือบางทีผ้าซิ่นที่มัดด้วยลายธรรมาสน์จะนุ่งในเทศกาลทำบุญพิเศษเท่านั้น
- ลายใบเสมา: ชาวบ้านมีความเชื่อว่าใบเสมาเป็นใบปักเขตของสงฆ์หรือของวัดให้มี ขอบเขตเป็นสัดส่วน ถ้าใครทำได้ใน ลักษณะนี้แล้วจะได้บุญกุศลอย่างมาก ทั้งนี้เพราะว่าถ้าใครทำอะไรลงไปในสมัยก่อนจะได้ตอบแทนในลักษณะนั้นๆเช่น ถวายผ้า สำหรับกิจของสงฆ์ชาวบ้านก็จะได้บุญกุศลไปด้วย
* ลวดลายผ้าไหมที่ได้อิทธิพลจากสัตว์ อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสัตว์มงคล
ซึ่งเกิดจากการดำรงชีวิตที่อยู่กับการทำปศุสัตว์เพื่อเป็นแหล่งอาหาร และสัตว์ที่เป็นความเชื่อเรื่องความมงคลแก่ชีวิต ยึดเหนี่ยวจิตใจ
- ลายนกยูง: นกยูงเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงาม เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ลายนกยูงนี้ปรากฏอยู่ในลายมัดหมี่ตั้งแต่สมัยก่อนมาจนถึงปัจจุบัน
- ลายผีเสื้อ: ผีเสื้อนี้ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีความสวยงามและรักอิสระความสงบถ้านำเอามาเป็นลายของผ้าแล้วจะทำให้คนนั้นมีนิสัยเหมือนกับผีเสื้อคือมีทั้งความสวยงามและความสงบเรียบร้อย
- ลายจอนฟอน(พังพอน): ชาวบ้านมีความเชื่อว่าพังพอนเป็นสัตว์ที่มีความอดทนและแก่งกล้าที่เอาชนะงูได้ทั้ง ๆที่งูเป็นสัตว์ที่มีพิษมากพังพอนยังเอาชนะได้สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวบ้านนำเอามาเป็นลายในการมัดหมี่การทำลายนี้เพื่อจะให้คนได้สำนึกตนว่า จะต้องมีความอดทนต่อสิ่งต่าง ๆที่อยู่รอบด้าน และพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ต่อไป
- ลายเขี้ยวปลา: ชาวบ้านมีความเชื่อว่าการที่เอาลายสัตว์น้ำที่เห็นอยู่ทุกวันมาทำเป็นลายแล้วคงจะสวยงามซึ่งช่างผู้มัดหมี่ว่า เกิดจากความคิดของตนเองที่ไปเห็นและมีประสบการณ์ในการนำอาปลามาประกอบอาหาร เห็นว่า เขี้ยวปลาสวยดีจึงนำเอามาทำเป็น ลายของผ้ามัดหมี่และผ้าขิด
- ลายแมงป่อง: ชาวบ้านมีความเชื่อว่า สัตว์ตัวเล็กนิดเดียว ทำไมจึงมีพิษมากมายนักสามารถทำให้คนอื่นได้รับความเจ็บปวดได้ การที่ชาวบ้านนำเอามาทำเป็นลายนี้ก็เพราะว่าจะได้ข่มขวัญศัตรู อีกประการหนึ่งคือเป็นการแสดงฝีมือในการมัดหมี่ลายนี้เพราะ เป็นลายที่ละเอียดและมีความประณีตมาก
- ลายปีกไก่: การทำลายปีกไก่ของผ้ามัดหมี่และผ้าขิดชาวบ้านบอกว่าปีกไก่เวลากางปีกออกมาจะสวยงามมากแสดงความเป็นเอกลัษณ์และทรนงในตัวเองฉะนั้นชาวบ้านจึงได้นำเอาลักษณะของปีกไก่มาเป็นลายของผ้ามัดหมี่และผ้าขิด
- ลายม้า: ม้าเป็นพาหนะที่ดีที่สุดของคนและเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้กับคนมากที่สุดมีความอดทนเป็นเลิศลักษณะเหล่านี้จึงทำให้คนสมัยก่อนเอามาเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตหรือเอามาทำลาย
- ลายสิงโต: สิงโตเป็นสัตว์ที่ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสัตว์ป่าซึ่งแสดงความมีอำนาจมีวาสนาอยู่ในตัวฉะนั้นถ้าคนใดจะทอผ้าสำหรับคนที่เรานับถือและเป็น เจ้าใหญ่นายโตจะต้องทอด้วยลายสิงโตหรือถ้าใครได้ใส่ผ้าที่ทอด้วยลายสิงโตก็แสดงว่าคนนั้นเป็นคนที่มีวาสนา มีคนนับหน้าถือตาเป็นอย่างมาก
- ลายเสือ: เสือเป็นสัญลักษณ์ของความยำเกรง ความหยิ่งผยองความมีศักดิ์ศรี ดังนั้นชาวบ้านจึงมีความเชื่อเกี่ยวกับ เรื่องนี้มากจึงได้นำเอาลายเสือมาทอเป็นลายของผ้าเพื่อจะได้ให้ผ้าชนิดนี้ที่มีไว้ในครอบครัวรักในศักดิ์ศรีใครจะมาดูหมิ่นไม่ได้ เป็นอันขาด
- ลายช้าง: ช้างเป็นสัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นใหญ่เป็นโตของผู้ที่ใฝ่ฝันและสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งมีศรีสุขถ้าใครได้สัมผัสกับสัตว์ประเภทนี้แล้วจะมีความรุ่งเรืองการประกอบอาชีพก็จะมีความมั่นคง
- ลายงูเหลือม: งูเหลือมเป็นงูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดางูทั้งหลายชาวบ้านจึงมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องงูนี้มากคือถ้าจะเอางูมาทำเป็นลายของผ้ามัดหมี่และผ้าขิดแล้วจะต้องดูก่อนว่าความเหมาะสมกับกิจอันนั้นหรือไม่แต่สำหรับหญิงที่แต่งงานแล้วสามารถสวมใส่ได้โดยไม่มีใครว่าได้เพราะหญิงที่แต่งงานแล้วพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและสามารถแก้ปัญหาได้อีกอย่างหนึ่ง ถือว่าหญิงแต่งงานนั้น เป็นคนสมบูรณ์แล้วในชีวิตดังนั้นลายงจะไม่ทอปนเปกันเป็นอันขาด
- ลายลูกกา (โกนกะแอ) : เป็นลายท้องถิ่นในจังหวัดสุรินทร์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากลูกกา (ในภาษาเขมรจะเรียกว่า โกนกะแอ)
* ลายที่ได้รับอิทธิพลจากพืช
ซึ่งเกษตรกรรมล้วนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันท้องถิ่นของชาวบ้าน
- ลายต้นสน: ใบของต้นสนเป็นใบที่มีความเป็นระเบียบจึงเหมาะสมที่จะนำมาเป็นลายของผ้ามัดหมี่และผ้าขิดได้ทั้งนี้เพราะชาวบ้านมีความเชื่อว่าชีวิตคนจะต้องเป็นระเบียบ มีวินัยเหมือนกับต้นสนถ้าใครปฏิบัติได้ก็จะทำให้ชีวิตสงบสุข และมีระเบียบในตัวเอง
- ลายดอกพุดซ้อน: ลายดอกแก้วลายดอกพิกุล ลายดอกจัน ลายดอกบายเย็นและลายดอกสร้อย ลายเหล่านี้เอามาจากดอกไม้ไทยที่เป็นสัญลักษณ์ของความดีและสามารถนำไปถวายพระสงฆ์เพื่อแสดงความรู้จักกาลเทศะและคารวะต่อสิ่งที่เราเคารพนับถือ
- ลายดอกผักแว่น: ผักแว่นเป็นพืชที่อยู่ตามชายฝั่งของลำน้ำ ห้วย หนอง คลองบึงเพราะผักแว่นเกิดง่าย ผักแว่นนี้เป็นพืชที่ชาวบ้านได้สัมผัสอยู่ทุกวันจึงเกิดความคิดที่จะสร้างงานทางด้านลายของผ้าจึงได้นำเอาดอกผักแว่นหรือผักแว่นนั้นมามัดหมี่และผ้าขิดได้ทั้งนี้เพราะลักษณะของดอกผักแว่นเป็นดอกเล็ก ๆ สวยงาม เกิดเป็นกลุ่มและโตเร็วดังนั้นถ้าใครสามารถมัดตาม ลายได้ก็จะ เป็นคนที่มีความสามัคคีในเอื้อเฟื้อมีความประณีตละเอียดอ่อน
- ลายงา: งาเป็นพืชล้มลุกชาวบ้านปลูกไว้รับประทานเมล็ดและมีความเชื่อว่าเมล็ดงาเป็นเม็ดเล็กๆที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มก้อนถ้าเราเอาทำเป็นลายบนผืนผ้าคงจะมีความหมายไปในทางที่เป็นมงคลลายงานี้บางทีชาวบ้านเรียกอีกอย่างหนึ่งคือลายดาวกระจาย
- ลายหมาก: หมากบกหรือกระบกเป็นไม้ยืนต้นเป็นพืชที่อยู่ใกล้ตัวของคนจึงทำให้ช่างมัดหมี่หรือช่างทอผ้าเกอดความคิดที่จะสร้างสรรค์ลายในลักษณะนี้ขึ้นเพราะต้นกระบกลูกมากที่สุดถ้าใครสามารถนำลูกกระบกมาทำเป็นลายของผ้าก็จะแสดงถึงความอดทนและมีความอุดมสมบูรณ์ต่อไปในภายหน้าจึงทำให้เกิดลายของหมากบกขึ้นบนผ้ามัดหมี่และผ้าขิด
- ลายหนามแท่ง: ต้นหนามแท่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ชอบขึ้นตามโคกหรือดง มีหนามแหลมคมมีดอกเล็กคล้ายดอกพิกุล มี 4 กลีบ หรือมีความหมายว่า 4 ทิศนั่นเอง หรือหมายถึง ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟถ้าใครทำลายชนิดนี้จะเป็นคนที่มีความประณีตละ เอียดละออมากจึงจะทำได้
- ลายต้นผักขะแยง (ปกามะออม) : เป็นภาษาถิ่นไทยเขมรในจังหวัดโซนอีสานใต้ ผักขะแยงมีกลิ่นหอมนิยมนำมาปรุงในอาหารพื้นบ้าน ขึ้นในท้องไร่ท้องนา หรือที่มีน้ำขังตลอดปี ลักษณะลายผ้าปกามะอมเป็นลายผ้าตารางสีเลี่ยมเล็กๆ คล้ายกับผ้าสระมอ แตกต่างกันคือสี สีผ้าจะออกสีเขียวอมเหลือง แซมด้วยสีม่วง คล้ายกับสีของต้นและดอกผักขะแยง (ปกามะออม) เมื่อเรามองดีๆ จะคล้ายกับการมองทุ่งผักขะแยงหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวในนา
ขอบคุณแหล่งที่มา:
- หนังสือ ผ้าไหมสุรินทร์ สายใยวัฒนธรรม
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ