"ลายพิกุลพลอย" ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2516 เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนจังหวัดนราธิวาส ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างงานและอาชีพให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ พระองค์ทรงพระราชทานแนวคิดให้ชาวบ้านในพื้นที่หันมาทอผ้า เพื่อเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้กับสตรีในชุมชนที่มีเวลาว่างจากการทำเกษตร เช่น การทำนาและกรีดยางพารา
ด้วยแรงบันดาลใจนี้ กลุ่มทอผ้าต่าง ๆ ในจังหวัดนราธิวาสจึงถูกจัดตั้งขึ้น เช่น กลุ่มทอผ้าบ้านโคกเคียน โดยช่างทอจากจังหวัดสงขลาและตรังเป็นผู้สอนเทคนิคการทอผ้าให้กับชาวบ้าน จนในเวลาต่อมา ลายผ้าต่าง ๆ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นลายผ้าที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น
ลายพิกุลพลอยเป็นการพัฒนาลวดลายมาจาก "ลายดอกพิกุล" ซึ่งเป็นลายผ้าดั้งเดิมของจังหวัด ลายนี้สื่อถึงความงดงามและละเอียดอ่อนของดอกพิกุล หรือที่เรียกกันในภาษามลายูถิ่นว่า "บุหงาตันหยง" ลายนี้ยังเป็นตัวแทนความเชื่อมโยงของธรรมชาติกับชีวิตประจำวันของชาวนราธิวาส
ลายพิกุลพลอยถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคการทอผ้าชั้นสูง โดยใช้ "กี่กระตุก" ที่มีตะกอมากถึง 7 ตะกอ และเท้าเหยียบ 12 เท้าเหยียบ ซึ่งทำให้ผ้าทอลายนี้มีความละเอียดและซับซ้อนมากกว่าผ้าทอลายอื่น ๆ ทั่วไป
การทอลายพิกุลพลอยใช้เทคนิคการทอด้วยกี่กระตุก 7 ตะกอและ 12 เท้าเหยียบ กระบวนการทอเริ่มต้นจากการเดินเส้นด้าย ซึ่งจะต้องนำเส้นด้ายมาร้อยเข้ากับราวไม้สำหรับเดินด้าย จากนั้นจะร้อยเส้นด้ายเข้าช่องฟันหวี และพันด้ายเข้ากับไม้ม้วนหรือใบพัด ก่อนที่จะทำการคัดเส้นด้ายเพื่อกำหนดลวดลายผ้าที่จะทอ
เมื่อเส้นด้ายถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ช่างทอจะทำการเก็บตะกอและผูกเท้าเหยียบกับกี่ทอผ้า เพื่อเริ่มต้นการทอ โดยการเหยียบเท้าเหยียบและกระตุกเส้นด้ายให้กระสวยลอดผ่านวิ่งสลับไปมา การทอผ้าด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ผ้าที่ได้มีความแน่นหนาและสวยงาม
ลายพิกุลพลอยไม่ได้เป็นเพียงแค่ลายผ้าที่งดงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของจังหวัดนราธิวาส ลายนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นลายผ้าประจำจังหวัดนราธิวาส ตามประกาศจังหวัดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นการยกย่องและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทย และการทอผ้าด้วยมือที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
"ลายพิกุลพลอย" เป็นลายผ้าที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความหมาย สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากจะเป็นเครื่องหมายของศิลปะและวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นตัวแทนของความภาคภูมิใจของชาวนราธิวาส ลายผ้านี้ยังแสดงถึงความงดงามที่ไม่เสื่อมคลาย และยังคงเป็นมรดกที่มีคุณค่าสำหรับคนรุ่นหลัง
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา