เนื่องจากความนิยมในแต่ละถิ่นไม่เหมือนกัน ลักษณะของเครื่องแต่งกายของแต่ละถิ่นจึงมีแบบอย่างต่างกันไปทั้งในเรื่องรูปแบบและสีสัน ตลอดจนลักษณะของผ้าซึ่งเป็นของที่ทําขึ้นใช้เองบ้าง มีมาขายจากต่างบ้านต่างเมืองบ้าง อย่างไรก็ตาม รูปแบบของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของคนไทยทั่ว ๆ ไป คงเป็นแบบง่าย ๆ เจ้านายหรือขุนนางและผู้มีฐานะดีใช้ผ้าดีมีราคา ผ้าบางชนิดก็ใช้ได้เฉพาะพวกขุนนางเท่านั้น เช่น ผ้าสมปัก
การแต่งกายได้เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย จึงไม่อาจกําหนดให้แน่นอนได้ แต่เข้าใจกันว่าในสมัยสุโขทัย ผู้ชายนุ่งกางเกงและสวมเสื้อผ่าอกแขนสั้น ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงและผ้าซิ่นตามความนิยมของแต่ละท้องถิ่น ต่อมาในสมัยอยุธยา ผู้ชายก็ยังคงนุ่งกางเกง และบางครั้งก็นุ่งผ้าพื้นอย่างที่เรียกกันว่า นุ่งโจงกระเบน คือม้วนชายผ้านุ่งทั้งสองชายเข้าด้วยกันให้เรียวคล้ายหางปลากระเบน แล้วเหน็บปลายผ้าที่ม้วนนี้ไว้ที่เอวด้านหลัง (ซึ่งยังเรียกอวัยวะส่วนนั้นของร่างกายว่า กระเบนเหน็บมาจนทุกวันนี้) จึงได้เรียกการนุ่งผ้าแบบนี้ว่า นุ่งโจงกระเบน ส่วนเสื้ออาจมีรูปแบบมากขึ้น เช่น แขนเสื้อยาวและเป็นรูปทรงกระบอก ครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ความนิยมในการแต่งกายก็เปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม ในสมัยนี้มีการติดต่อกับชาวต่างประเทศมากขึ้น
การแต่งกายของคนไทยนั้น โดยปกติเมื่ออยู่บ้านจะแต่งกายเรียบง่าย เมื่อไปงานพิธีหรือไปปฏิบัติราชการ ก็แต่งกายอีกแบบหนึ่ง เสื้อผ้าที่สวมอยู่กับบ้านเป็นผ้าฝ้ายธรรมดา ในสมัยโบราณผู้ชายอาจนุ่งกางเกงมีผ้าคาดเอวหรือผ้าพาดไหล่ ไม่นิยมสวมเสื้อเพราะอากาศร้อน ถ้าอากาศหนาวก็สวมเสื้อหรือห่มผ้า เมื่อออกไปทําไร่ไถนาก็สวมเสื้อผ้าสีดําหรือสีน้ําเงิน นุ่งกางเกงสวมเสื้อแขนสั้น ผู้หญิงเมื่ออยู่บ้านอาจใช้เสื้อผ้าที่มีสีสันและสวมใส่สบายง่าย ๆ แต่ถ้าออกไปทํางานนอกบ้านก็ใช้เสื้อผ้าสีดําหรือน้ําเงิน
เมื่อไปงานพิธี เช่น ทําบุญตักบาตร ก็จะแต่งกายเรียบร้อยรัดกุม ผู้ชายสวมเสื้อ นุ่งกางเกงใช้ผ้าที่มีราคาหรือสวยงามมากขึ้น ผู้หญิงก็ใช้เสื้อผ้าที่มีสีสัน มีเครื่องประดับตาม ฐานะ ที่เป็นข้าราชการนั้นมีเสื้อผ้าชนิดดีตามตําแหน่งหรือตามที่ได้รับพระราชทานซึ่งผิด จากคนทั่วไป เพราะเครื่องแต่งกายของข้าราชการนั้น อาจบอกยศหรือตําแหน่งได้ด้วย
ในเรื่องรูปแบบของเสื้อผ้าและการแต่งกายของคนไทยสมัยอยุธยา ตามที่กรมศิลปากรตรวจสอบจากจิตรกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยา คงสรุปเป็นหลักฐานได้ดังต่อไปนี้
1. สตรีไว้ผมยาวเกล้ามวยบนศีรษะ สวมเสื้อบางผ่าอก คอรูปสามเหลี่ยม แขนสั้น ขลิบขอบสาบเสื้อ ชายเสื้อปรกเอวด้วยรับกับสะโพก สวมกําไลแขนเป็นปลอก นุ่งผ้าโจงกระเบนยาวครึ่งแข้ง
2. ส่วนชาวบ้านผมไว้ยาวประบ่าหวีแสกกลาง ไม่สวมเสื้อ ห่มผ้าสไบเฉียงปิดอก นุ่งผ้าเชิงใต้สะดือยาวครึ่งแข้ง จีบหน้านางชักชายพกยาวตกลงมาตรงกลาง
3. แบบผมบางแบบเกล้าขึ้นไปแล้วคาดกลาง ปล่อยให้ปลายบานออก หรือไว้ผมหวีแสกกลางไปรวมกัน เป็นพุ่มตรงด้านหลัง ใส่สร้อยสังวาล แต่มีผ้าคล้องไหล่ปิดอกทั้งสองข้าง นุ่งผ้าเชิงยาวครึ่งแข้ง จีบหน้าชักชายพกยาวลงมาตรง กลางช่วงขา ไว้ผมยาวเกล้ามวย ไม่สวมเสื้อแต่ห่มผ้าแบบตะเบ็งมานแทน โดยนุ่งผ้าโจงกระเบนเพื่อสะดวกแก่การทํางาน บางครั้งก็หยักรังเหนือเข่า
4. มีบางพวกนุ่งผ้าเชิงยาวครึ่งแข้ง จีบหน้านางและไว้ผมยาวประบ่า ตอนบนหวีแสกกลางเป็นรูปปีกนก (ผมปีก) ห่มผ้าสไบเฉียง นุ่ง ผ้าเชิงจีบหน้านางยาวครึ่งแข้ง
5. สําหรับผู้ชายชาวอยุธยา ไว้ผมสั้นหวี แสกกลางดุจผมรองทรง สวมเสื้อแขนสั้นเป็น เสื้อรัดรูปยาวปรกบั้นเอว ผ่าอก คอสามเหลี่ยม มีลายเกล็ดประดับขอบสาบเสื้อและขอบแขน สวมกําไลเป็นปลอก นุ่งผ้าโจงกระเบนสั้นเหนือ เข่า กับสนับเพลายาวครึ่งแข้ง
6. ส่วนศิลปินทําทรงผมหวีแสกกลางทรง ปีกนก โกนด้านข้างโดยรอบ สวมเสื้อคอกลม แขนสั้นปล่อยชาย พับกางเกงขายาวครึ่งแข้งคล้าย สนับเพลา ผ้าคาดพุงปล่อยชาย
7. ผู้ชายชาวพื้นบ้าน ไว้ผมหวีมีผ้าคาดศีรษะ ปล่อยผมปรกหน้าผาก สวมเสื้อแขนสั้น คอกลม นุ่งผ้าโจงกระเบนหยักรั้งเหนือเข่า ทับชายเสื้อ
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่ม 18