ผ้าหางกระรอกถือเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญในแถบอีสานใต้ของประเทศไทย ภูมิภาคที่ผ้าหางกระรอกพบมากที่สุดคือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และพบในภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช และตรังที่เรียกว่า "โฮลเปราะห์" นอกจากนี้ยังมีสตรีที่ใช้นุ่งทอผ้าหางกระรอกเปลี่ยนเป็นลายริ้วที่เรียกว่า “โฮลแสร็ย” ผ้าไหมกะนิว หรือผ้าไหมหางกระรอก ที่ผลิตจากการตีเส้นเกลียวควบเป็นทองกระบือที่มีลวดลายที่มีต้นกำเนิดจากการสังเกตกระรอก มีลักษณะผืนผ้าริ้วเหลื่อมเป็นเงาเหมือนกับลายหางกระรอก ลายหางกระรอกนี้กลายเป็นศิลปะที่เป็นที่นิยมในวัฒนธรรมไทยเขมร การทอผ้ากะนิว หรือผ้าไหมหางกระรอก การทอผ้าไหมกะนิว มีกระบวนท่ามกลางที่ซับซ้อน ผู้ทอผ้าต้องมีความละเอียดและความอดทน
ผ้าหางกระรอกมีความเฉพาะเจาะจงในเทคนิคการทอที่เรียกว่า "การควบเส้น" หรือ ที่คนไทยเรียกว่า "ผ้าหางกระรอก" ซึ่งเป็นกระบวนการทอที่ใช้เทคนิคพิเศษ โดยนำเส้นไหม 2 เส้น 2 สีมาตีเกลียวควบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเส้นลูกลายหรือเส้นหางกระรอก ที่มีลักษณะเป็นเส้นเดียว ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ตีเกลียวเช่น ไน และ โบก ในการทำให้ได้เกลียวถี่หรือห่างตามต้องการ ในภาคกลางและภาคใต้ เรียก หางกระรอก ในอีสานเหนือ เรียก "ควบ" หรือ "เข็น" ในอีสานใต้ เรียก "กะนีว" ในล้านนา เรียก "ปั่นไก" หรือ "มับไม" ประโยชน์และการใช้งาน เป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำผ้านุ่งโจงกระเบนและผ้าซิ่น ใช้ในพิธีกรรมและพิธีสำคัญต่างๆ ใช้ในการทำผ้าห่อบาตรและผ้าปกโลงศพ เป็นต้น
ผ้าหางกระรอกมีลักษณะพื้นผ้าเรียบง่ายที่มีลายเส้นลูกลายเล็กๆ ที่สร้างความงดงามและประณีต ลวดลายนี้ทำให้ผ้ามีลักษณะลายเหลือบเป็นสีมันวาวระยับ ดูคล้ายกับขนหางกระรอก ทำให้ชื่อเรียกของผ้านี้มีความเป็นมาจากลักษณะของหางกระรอกนั่นเอง
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ