ลําต้น: สูงประมาณ 5-13 เมตร ลําต้นและกิ่งมีหนามขนาดใหญ่ โคนหนามพองโตคล้ายเต้านม
เปลือก: เปลือกของต้นอายุน้อยมีสีน้ําตาลอมเขียว ผิวเป็นร่องตื้น เมื่อต้นเจริญเต็มที่เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ําตาลเข้ม ผิวเป็นร่องแตกสะเก็ด
ใบ: ใบประกอบด้วยก้านใบยาว และมีก้านย่อยที่ประกอบด้วยใบย่อย ก้านใบ 1 ก้าน มีก้านย่อยประมาณ 12 ก้าน แต่ละก้านย่อยประกอบด้วยใบย่อยประมาณ 13 คู่ ออกเรียงสลับตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ใบมีลักษณะแบบขนนก
ผล: ผล/ฝักมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมแข็ง แบนสีเขียว เหมือนมีดปังตอ เมื่อแก่จะมีสีน้ําตาลหรือน้ําตาลเข้ม และแก่เต็มที่หรือแห้งจะมีสีน้ําตาลดําหรือดํา ด้านในฝักมีเมล็ดทรงเรียวรี่ 2-4 เมล็ด/ฝัก
ดอก: ดอกเป็นช่อบริเวณส่วนยอดของต้น ดอกมีสีเหลือง กลางดอกมีสีแดง ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่ง และซอกใบใกล้ปลายกิ่ง
เป็นไม้ขนาดกลาง หรือเป็นไม้พุ่ม หรือไม้พุ่มกึ่งไม้เถาผลัดใบ เนื้อไม้หรือแก่นเป็นสีแดงเข้มและมีรสขมหวาน จะเรียกว่า “ฝางเสน” แต่ถ้าแก่นไม้เป็นสีเหลืองส้มและมีรสฝาดขึ้น จะเรียกว่า “ฝางส้ม” พรรณไม้ชนิดนี้เป็นไม้กลางแจ้ง ขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุย มักจะพบพรรณไม้ ชนิดนี้ได้ตามป่าละเมาะ ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และตามเขา หินปูน
การสกัดสี
การย้อมสี
สีย้อมไหมที่ได้เป็น สีน้ำตาลอมเหลือง
ขอบคุณแหล่งที่มา: กรมหม่อนไหม