ลําต้น: ลําต้นตั้งตรงมีความสูงประมาณ 60-100 ซม. เปลือก เป็นสีเขียวและเป็นร่อง
ใบ: ใบประกอบแบบขนนก ปลายใบ ออกเรียงตรงข้ามกัน มีใบย่อยประมาณ 11-17 ใบ ลักษณะของใบ เป็นรูปรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบจักเป็นซี่ฟัน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1.5 ซม. ยาวประมาณ 2.5-5 ซม. เนื้อใบนิ่ม
ผล: ผลแห้งสีดําไม่แตก ดอกจะแห้งติดกับผลย่อย
ดอก: ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวตามปลายยอด ดอกเป็นสีเหลืองสด หรือสีเหลืองปนส้ม กลี บดอกมีขนาดใหญ่เรียงซ้อนกัน หลายชั้นเป็นวงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 5-10 ซม. และยาวประมาณ 1.5-2 ซม. ปลายกลีบดอกเป็นฟันเลื่อย มีเกสรเพศผู้ 5 อัน
จัดเป็นไม้ล้มลุก มีอายุได้ราว 1 ปี แตกกิ่งก้านมากที่โคนต้น เมื่อนํามาขยี้จะมีกลิ่นเหม็น จึงทําให้แมลงไม่ค่อยมารบกวน โดยจัดเป็นพันธุ์ไม้กลางแจ้ง
การสกัดสี
1. เด็ดเอาแต่ส่วนของกลีบดอกดาวเรือง นําไปตากแดดให้แห้ง อัตราส่วนดอกดาวเรืองแห้ง 300 กรัม ต่อเส้นไหม 100 กรัม
2. นําดอกดาวเรืองแห้งต้มในน้ําสะอาด นาน 30 นาที
3. กรองด้วยผ้าขาวบาง ปรับปริมาณน้ําสี ให้ได้ 3 ลิตร
การย้อมสี
1. นําเส้นไหมฟอกกาวแล้วแช่ในน้ําสี ไม่ต้องตั้งไฟนาน 5 นาที แล้วนําเส้นไหมพักไว้
2. นําน้ําสีตั้งไฟให้เดือด เติมกรดซิตริกคนให้ละลาย นําเส้นไหม ที่พักไว้ลงย้อมนาน 30 นาที (ระหว่างย้อมคอยควบคุม อุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 60-70 องศาเซลเซียส และหมั่นกลับ เส้นไหม)
3. ครบเวลานําเส้นไหมผึ่งให้แห้งในร่มทิ้งไว้ 1 วัน
4. นําเส้นไหมที่ย้อมได้มาล้างด้วยน้ําสะอาดจนกระทั่งน้ําใสไม่มีสีหลุดออกมา
5. บิดพอหมาดกระตุกเส้นไหมให้เรียงเส้นผึ่งให้แห้งในร่ม
สีย้อมไหมที่ได้เป็น สีเหลืองอมน้ำตาล
ขอบคุณแหล่งที่มา: กรมหม่อนไหม