ลวดลายโบราณพื้นถิ่นถูกถักทอสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่นโดยชาวอ้าเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ที่ยามว่างเว้นจากการทํานาทําไร่ ทําให้การทอผ้าเป็นอีกหนึ่งวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ทอไว้เพื่อใช้สวมใสในครัวเรือนและทอจําหน่ายเพื่อสร้างรายได้เสริม จนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่นที่ยากจะเลียนแบบได้
ผ้าลวดลายโบราณที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของอําเภอนาหว้า จะมีได้แก่ ผ้าลายนาคชูสน, ผ้าลายหมี่ข้อ หมีคั่น, ผ้าลายหมากจับวง, ผ้าลายตาหมากนัด (ตาสับปะรด), ผ้าลายหมากจับหว่าน, ผ้าลายนาค ซึ่งทั้งหมดได้รับแรงบันดาลใจในการถักทอจากสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจําวัน ข้าวของเครื่องใช้ พืชพรรณ พื้นถิ่น ผลผลิตทางการเกษตร ห้วยหนองคลองบึง ข้าวปลาอาหาร ท้องฟ้า พลังความศรัทธา และตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา ซึ่งมันเปรียบเสมือนกับบทบันทึกทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของชุมชนที่ถักทอขึ้นด้วยภูมิปัญญาและจิตวิญญาณของช่างทอ
ภารกิจหนึ่งของโครงการนาหว้าโมเดล คือการฟื้นคืนภูมิปัญญาการทอผ้าพื้นถิ่นของบ้านนาหว้า ซึ่งสมาชิกทั้ง 6 กลุ่มที่เข้าร่วมโครงการนาหว้าโมเดล จึงได้สืบค้นอัตลักษณ์ผ้าไทยพื้นถิ่นและได้นํามาต่อยอดจนได้ผืนผ้าที่ผ่านการพัฒนา ที่มีความร่วมสมัยและเป็นสากล ตามแนวพระดําริในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมและกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัยและทุกโอกาส พระองค์ได้พระราชทานคําแนะนําในการย้อมเส้นใยด้วยสีธรรมชาติจากพืชพรรณในท้องถิ่น อาทิ พืชสมุนไพรและไม้มงคล อีกทั้งมีพระวินิจฉัยและพระราชทานแนวทางของโทนสีที่มีความร่วมสมัย เป็นการสร้างมิติแห่งสีสันของเส้นใยบนผืนผ้า ด้วยมีพระประสงค์ให้เป็นการจุดประกายความคิดในการพัฒนาลวดลายบนผืนผ้าและผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นจากผ้าไทยให้มีความร่วมสมัยสามารถก้าวสู่ระดับสากลเพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากศูนย์หัตถกรรมและจําหน่ายสินค้าพื้นบ้านวัดธาตุประสิทธิ์
ผ้ามัดหมี่ลายตาหมากนัด
ผ้าลายตาหมากนัดมีลักษณะคล้ายตาสับปะรด ซึ่งเป็นพืชที่นิยมปลูกไว้ที่หัวไร่ปลายนา สับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจที่นํามาซึ่งรายได้ของชุมชน เป็นลายผ้าอัตลักษณ์ประจําท้องถิ่น
เส้นยืน : ย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ย้อมครั่ง
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสมคิด วะชุม
ลายตาหมากนัด
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่ข้อหมี่คั่น
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่ข้อหมี่คั่นมีลักษณะลวดลายเป็นรูปกากบาท มีรูปสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดคั่นกลาง แบ่งด้วยเส้นขอบขนาดใหญ่เล็กสลับกันเป็นแนวเส้นตรง
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้าน
กระสวยที่ 1 ย้อมครั่ง / กระสวยที่ 2 ย้อมครั่งอ่อน / กระสวยที่ 3 ย้อมครั่งเข้ม กระสวยที่ 4 ย้อมเข / กระสวยที่ 5 ย้อมเพกา / กระสวยที่ 6 ย้อมคําแสดและครั่ง
มัดหมี่โดย นางมยุรี วะชุม ย้อมและทอโดย น.ส.พักตร์วิภา วะชุม
ลายหมี่ข้อหมี่คั่น
ผ้ามัดหมี่ลายตุ้มหว่าน
ลายตุ้มหวานมีลวดลายเป็นดอกขนาดเล็กกระจาย เปรียบเป็นดวงดาวที่รายเรียงบนท้องฟ้า
เส้นยืน: ไหมจุลย้อมคราม
เส้นพุ่ง: ไหมบ้านย้อมครั่ง
มัดหมี่โดย นางอ่อนสี วะชุม
ย้อมและทอโดย น.ส.นงเยาว์ วะชุม
ลายตุ้มหว่าน
ผ้ามัดหมี่ลายหวีวง
ลายหวีวงเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ มีลวดลายคล้ายฟันหวี มีลายประกอบที่ทําให้ลายหลักชัดขึ้นด้วยการวงหรือการครอบด้วยลายเส้นขอบรูปทรงเรขาคณิตเรียงสลับเป็นแถวต่อเนื่องกัน
เส้นยืน: ย้อมคราม
เส้นพุ่ง: ย้อมครั่ง
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางวารี วะชุม
ลายหวีวง
ผ้ามัดหมี่ลายกาบวง
ลายกาบวงเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ ประยุกต์ลายจากลายหมี่หมากจับเล็ก แล้วพัฒนามัดลายกาบสามเหลี่ยมให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
เส้นยืน: ย้อมคราม
เส้นพุ่ง: ย้อมคราม
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสุภาวดี อุดมเดชาเวทย์
ลายกาบวง
ผ้ามัดหมี่ลายคั่นข้อ หมี่เอี๊ย หมี่ปลา
พัฒนาจากลายหมี่คั่นโบราณมารวมกับลายหมี่เอี้ยหมี่ปลา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ถ่ายทอดเรื่องราวของข้าวปลาอาหารที่อุดมสมบูรณ์
เส้นยืน: ไหมจุลย้อมคราม
เส้นพุ่ง: ไหมบ้าน ย้อมคราม/สีคั่น
กระสวยที่ 1 ย้อมครั่ง / กระสวยที่ 2 ย้อมเข / กระสวยที่ 3 ย้อมคราม
มัดหมี่โดย นางพิมพา เปาวะนา
ย้อมและทอโดย นางสุภาวดี อุดมเดชาเวทย์
ลายคั่นข้อ หมี่เอี๊ย หมี่ปลา
ผ้ามัดหมี่ลายนาคคลองเลื่อย
ได้รับแรงบันดาลใจจากพญานาค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ในพื้นถิ่นอีสานเหนือ ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงจะมีผืนผ้าลายพญานาคหลายรูปแบบ
เส้นยืน: ไหมจุลย้อมฝักคูนแก่
เส้นพุ่ง: ไหมบ้านย้อมคราม
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางบุญสวน อังคะมาตย์
ลายนาคคลองเลื่อย
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่คั่นข้อ นาคลอย 1
ผ้าลวดลายพญานาคแสดงถึงการเคลื่อนตัวอย่างพลิ้วไหวของพญานาคลุ่มน้ำโขง มีเส้นคดโค้งสีขาว เป็นลายหลักแทนพญานาค มีลายประกอบเป็นหมี่คั่นข้อแทนสายน้ําโขง คู่จังหวัดนครพนม
เส้นยืน: ไหมจุลย้อมประโหด
เส้นพุ่ง: ไหมบ้านย้อมคราม/สีคั่น
กระสวยที่ 1 เป็นหมากมายสีขาว / กระสวยที่ 2 ย้อมคราม
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางจันทะนี วะลับ
ลายหมี่คั่นข้อ นาคลอย 1
ผ้ามัดหมี่ลายขอนางแอ่น
ลายขอนางแอ่นเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ เป็นลายรูปทรงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านบนบรรจบกันคล้ายปีกนกที่โผบิน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนกนางแอ่นที่บินมากินข้าวในนา
เส้นยืน: ไหมจุล ย้อมเมล็ดคําแสด
เส้นพุ่ง: ไหมบ้านย้อมครั่ง
ย้อม มัดหมี่และทอโดย นางอ่อนสี วะชุม
ลายขอนางแอ่น
ผ้ามัดหมี่ลายคีมน้อย
ลายคีมน้อยเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าลาว (ไทย-อีสาน) รูปทรงคล้ายคีมหนีบ สลับด้วยลายคั่นข้อ ออกแบบให้มีลวดลายคั่นซึ่งเป็นแถบริ้ว ทอแทรกด้วยเส้นใยที่ควบเส้นแบบหางกระรอกหรือสีพื้น
เส้นยืน: ไหมจุลย้อมมะเกลือ
เส้นพุ่ง: ไหมบ้านย้อมใบหูกวางและเปลือกเพกา
มัดหมี่ย้อมและทอโดย น.ส.ลัดดา คำชนะ
ลายคีมน้อย
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากกลุ่มศิลปาชีพทอผ้าไหมบ้านท่าเรือ
ผ้ามัดหมี่ลายคีมสลับขอ
ลายคีมสลับขอเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าลาว (ไทย-อีสาน) รูปทรงคล้ายคีมหนีบทอสลับด้วยลายขอ เป็นลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงที่พบเห็นในชีวิตประจําวัน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง คราม และใบสมอ
มัดหมี่โดย นางพิมพา เปาวะนา
ย้อมโดย นางจิรภา แมคมิ่งเหง้า
ทอโดย นางรักนิยม แมดมิ่งเหง้า
ลายคีมสลับขอ
ผ้ามัดหมี่ลายนาคไต่เครือ
ด้วยความศรัทธาต่อพญานาคของอารยธรรมลุ่มน้ำโขง ที่เชื่อกันว่านําพาความอุดมสมบูรณ์มาให้ ผ้าลายนาคจึงเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่งและแก่นฝาง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่งและใบสมอ
มัดหมี่โดย นางพิมพา เปาวะนา
ย้อมและทอโดย นางปราณี อ้อยรักษา
ลายนาคไต่เครือ
ผ้ามัดหมี่ลายคั่นข้อ
ลายคั่นข้อเป็นลวดลายมัดหมี่ที่พบมากในพื้นถิ่นอีสานเหนือ ออกแบบให้มีการทอลวดลายขนาดเล็ก คั่นระหว่างลวดลายหลัก ถักทอเป็นแถบริ้วที่ทอแทรกด้วยเส้นใยที่ควบเส้นแบบหางกระรอกหรือทอเป็นลายสีพื้น
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมมะเกลือและฝักคูนแก่หมักโคลน
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมฝักคูนแก่และครามหมักโคลน
มัดหมี่ย้อมและทอโดย น.ส.ไพรินทร์ จองบุดดี
ลายคั่นข้อ
ผ้ามัดหมี่ลายปลาน้อย
ลายปลาน้อยมีลายหลักคือปลาที่ถักทอเป็นแถว คั่นสลับด้วยลายหมี่ข้อ เป็นธรรมเนียมของบ้านที่มีลูกสาวจะทอผ้าลายปลาไว้สําหรับรับไหว้ญาติเจ้าบ่าวในวันแต่งงาน สื่อถึงความรักและความอุดมสมบูรณ์ของครอบครัว
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมใบสะเดาและใบขี้เหล็ก
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านมัดขาวโอบด้วยเมล็ดคําแสดแล้วย้อมทับด้วยฝักคูนแก่
สีคั่น กระสวยที่ 1 ย้อมใบหูกวาง / กระสวยที่ 2 ย้อมคราม
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางริดศรี แมดมิ่งเหง้า
ลายปลาน้อย
ผ้ามัดหมี่ลายดอกบัว
ดอกบัวเป็นดอกไม้มงคลที่ขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำในชุมชนบ้านท่าเรือ ชาวบ้านจึงถักทอผ้าลายดอกบัวที่มีลายเล็กๆ เป็นเกสรอยู่ด้านใน ในปี พ.ศ. 2536 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทอดพระเนตรเห็นผ้ามัดหมี่ลายดอกบัว ที่พระตําหนักภูพานราชนิเวศน์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มูลนิธิ ส่งเสริมศิลปาชีพฯ นําไปถอดแบบลายเพื่อเป็นต้นแบบให้กลุ่มทอผ้าอื่นๆ ไปพัฒนาต่อยอดตามอัตลักษณ์พื้นถิ่น
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมมะเกลือ
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสมหมาย ปัญญาสาร
ลายดอกบัว
ผ้ามัดหมี่ลายหมากแปบใหญ่
หมากแปบเป็นไม้เลื้อยที่ขึ้นตามรั้วบ้านของทุกครัวเรือน เป็นแรงบันดาลใจในการนํามาถักทอเป็นลายผ้า ลวดลายรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดในลักษณะต่อเนื่องกัน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่งและหัวกล้วยหมักโคลน
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางรัฐนิยม อ้อยรักษา
ลายหมากแปบใหญ่
ผ้ามัดหมี่ลายนาค
วิถีชีวิตชุมชนพื้นถิ่นอีสานลุ่มแม่น้ำโขง มีความเชื่อในตํานานของพญานาคที่เล่าขานสืบเนื่องยาวนาน เป็นแรงบันดาลใจในการถักทอผ้ามัดหมี่ลวดลายพญานาค
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมใบขี้เหล็กและใบสะเดา
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมเมล็ดคําแสดครั้งและฝักคูนแก่
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมและทอโดย นางใส ชาสงวน
ลายนาค
ผ้ามัดหมี่ลายคีมท้องปุ้ง
ลายคีมท้องปุ้งเป็นลายที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยการนํารูปทรงของกงใส่ด้ายมาทอต่อกัน ให้ส่วนกลาง โค้งป่องออก ทอสลับด้วยลายหมี่คั่นข้อ
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมฝักคนแก่
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านมัดขาว โอบด้วยเปลือกเสียดแล้วทับด้วยฝักคูนแก่หมักโคลน
สีคั่น กระสวยที่ 1 ย้อมเปลือกต้นเสียด / กระสวยที่ 2 ย้อมฝักคูนแก่ / กระสวยที่ 3 เป็นลายหางกระรอกขาวย้อมด้วยเปลือกต้นเสียด
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางดรุณี ชาสงวน
ลายคีมท้องปุ้ง
กง หรือ ระวิง
ผ้ามัดหมี่ลายปลาน้อย
ถักทอลวดลายปลาเป็นลายหลักเรียงต่อเนื่อง สลับด้วยลายหมี่ข้อคั่น เป็นธรรมเนียมของบ้านที่มีลูกสาว จะทอผ้าลายปลาไว้สําหรับรับไหว้ญาติเจ้าบ่าวในวันแต่งงาน สื่อถึงความรักและความอุดมสมบูรณ์ของครอบครัว
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง ฝักคูนแก่และใบหูกวาง
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมและทอโดย นางใส ชาสงวน
ลายปลาน้อย
ผ้ามัดหมี่ลายนาคชูสน
ลายต้นสนเป็นลวดลายโบราณแถบพื้นที่อีสานเหนือ มีที่มาจากความเชื่อที่ว่าชีวิตควรมีระเบียบวินัย เหมือนกับใบของต้นสนที่ขึ้นเรียงเป็นระเบียบ
เส้นยืน : ไหมย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ไหมย้อมคราม
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมและทอโดย นางจิรภา แมดมิ่งเหง้า
ลายนาคชูสน
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมวัดศรีบุญเรือง
ผ้ามัดหมี่ลายขอห้อยเครือ
ลายขอห้อยเครือเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ โดดเด่นด้วยลายหยักที่มีสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด แทรกอยู่ภายใน และทอต่อออกไปให้เป็นหัวตะขอไต่เครือ
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมคราม
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟีมยีนส์)
ย้อมโดย นางสะอาด นาโควงค์
มัดหมี่และทอโดย นางพระเอก นาโควงค์
ลายขอห้อยเครือ
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่คั่นนาคหัวซ้อง
ลายหมี่คั่นนาคหัวซ้องเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ มัดหมี่เป็นรูปพญานาคว่ายน้ำ ทอสลับด้วย ลายคั่นข้อที่มีนาคหลายหัวเรียงกัน
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมคราม
คั่นด้วยงิ้วป่า ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟีมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสมหมาย นาโควงค์
ลายหมี่คั่นนาคหัวซ้อง
ผ้ามัดหมี่ลายเครือกาบ
ลายเครือกาบถักทอเป็นลวดลายของกาบไม้ที่ห้อยลงมาเป็นเครือ ผสมผสานกับลายนาคไต่เครือและลายดอกบัว
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมเมล็ดคําแสด
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมประดู่
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ มลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่โดย น.ส.จันทร์เพ็ญ วงศรียา
ย้อมและทอโดย นางสายรุ้ง นาโควงศ์
ลายเครือกาบ
ผ้ามัดหมี่ลายดอกแก้ว
ลายดอกแก้วเป็นหนึ่งในลวดลายโบราณ มีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมขนาดเล็กประกอบกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดทอเรียงต่อเนื่องเป็นแถว
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมเมล็ดคําแสด
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเมล็ดคําแสด
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสายรุ้ง นาโควงค์
ลายดอกแก้ว
ผ้ามัดหมี่ลายนกนางแอ่น
ลายนกนางแอ่นเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ ได้รับแรงบันดาลใจจากนกนางแอ่นที่มากินข้าวตามไร่นา ถักทอเป็นลายสามเหลี่ยมประกอบกันขนาดใหญ่
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมคิ้วป่า
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางวารี โคตรพรม
ลายนกนางแอ่น
ผ้ามัดหมี่ลายกงน้อย
ลายกงน้อยเป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ ลวดลายมาจากรูปทรงของ “กง” ที่ใส่เส้นไหม เส้นฝ้าย ทอให้ลวดลายเรียงต่อกันเต็มผืน
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมสะเม็กป่าและเมล็ดคําแสด
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ มลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางวารี ตุลินทร
ลายกงน้อย
ผ้ามัดหมี่ลายนางเอก
เป็นลวดลายที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ โดยการนําลายโบราณมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ลวดลายสะท้อนจากวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชุมชนบ้านนาหว้า
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมใบสมอ
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางสะอาด นาโควงค์
ลายนางเอก
ผ้ามัดหมี่ลายตุ้มดอกรัก
มีที่มาจากรูปทรงของพวงมาลัยตุ้มดอกรักที่บูชาพระ ออกแบบและถักทอลวดลายให้มีความร่วมสมัย
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกเพกาและใบหูกวาง
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟีมยีนส์)
มัดหมี่โดย นางสายรุ้ง นาโควงค์
ย้อมโดย นางช่อแก้ว แก้วมุกดา
ทอโดย นางสมหมาย นาโควงค์
ลายตุ้มดอกรัก
ผ้ามัดหมี่ลายต้นสน
ลายต้นสนเป็นลวดลายโบราณแถบพื้นที่อีสานเหนือ มีที่มาจากความเชื่อที่ว่าชีวิตควรมีระเบียบวินัย เหมือนกับใบของต้นสนที่ขึ้นเรียงเป็นระเบียบ
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายเข็นมือ ย้อมเปลือกประดู่ ฝักคูนแก่และใบหูกวาง
ทอ 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟีมยีนส์)
มัดหมี่โดย นางสมหมาย นาโควงค์
ย้อมและทอโดย นางช่อแก้ว แก้วมุกดา
ลายต้นสน
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่กวด
เป็นลวดลายที่เกิดจากการมัดหมี่ลายปอน้อยมาต่อกันจนเป็นลายขนาดใหญ่และแต่งเติมลวดลายประกอบให้มีความโดดเด่น
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมใบยูคาลิปตัส
ทอด้วยเทคนิค 4 ตะกอ ฟืมลายสร้อยพร้าว (ฟืมยีนส์)
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางวารี โคตรพรม
ลายหมี่กวด
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากกลุ่มสตรีทอผ้าบ้านโคกสะอาด
ผ้ามัดหมี่ลายขอก่าย
ลายขอก่ายเป็นลวดลายที่ประยุกต์มาจาก “ตะขอ” ที่เป็นเครื่องไม้เครื่องมือในครัวเรือน มีความแตกต่างกันไปตามจินตนาการของช่างทอ
เส้นยืน : ฝ้ายย้อมแก่นขนุน
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมแก่นขนุน
มัดหมี่โดย นางบุญธรรม จันทะขันธ์
ย้อมและทอโดย นางสังวาลย์ เดชโฮม
ลายขอก่าย
ผ้ามัดหมี่ลายนาคน้อย
ชาวบ้านถักทอลายนาคน้อยหรือลายนาคพ่นน้ำ ด้วยความเชื่อที่ว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ดลบันดาลให้ฝนตกตามฤดูกาล
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมฝักคูนแก่
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านมัดขาวย้อมแก่นขนุนผสมเข
สีคั่น กระสวยที่ 1 ย้อมเปลือกประดู่ / กระสวยที่ 2 ย้อมแก่นเข
มัดหมีโดย นางวิมานรัตน์ จักษุมาตย์
ย้อมโดย นางจิรารัตน์ ชาสงวน
ทอโดย นางจิรารัตน์ ชาสงวน
ลายนาคน้อย
ผ้ามัดหมี่ลายขอหมายจับ
ลายขอหมากจับเป็นลวดลายโบราณที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพืชพรรณพื้นถิ่น “หมากจับ” ที่มีความสวยงาม ผสมผสานกับลายขอ มีความหมายที่เป็นมงคลคือ ความงามอย่างจับจิตจับใจ
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมแก่นขนุน และใบสักอ่อน
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านมัดขาวย้อมฝักคูนแก่ผสมยอดใบสักอ่อน
สีคั่น กระสวยที่ 1 ไหมขาว / กระสวยที่ 2 ย้อมฝักคูนแก่
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางเตือนใจ โคตรสิงห์
ลายขอหมายจับ
ผ้ามัดหมี่ลายขอตุ้มกีบบก
“หมากบก” หรือ “กระบก” เป็นไม้ยืนต้นประจําชุมชน ช่างทอผ้าสร้างสรรค์ลวดลายเพื่อต้องการ จะสื่อถึงความเชื่อที่ว่าถ้าทอผ้าลายลูกกระบกได้ ชีวิตจะมีความอุดมสมบูรณ์ในภายภาคหน้า
เส้นยืน : ไหมย้อมฝักคูนแก่
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมเปลือกประดู่และฝักคูนแก่
มัดหมี่โดย นางบุญธรรม จันทะพันธ์
ย้อมโดย นางปรารถนา ชาสงวน
ทอโดย นางทรัพย์ เดชโฮม
ลายขอตุ้มกีบบก
ผ้ามัดหมี่ลายคองขอกาบ พ.พาน
ลายคองขอกาบ พ.พาน เกิดจากการประยุกต์ลายขอให้มาต่อกันเกิดเป็นรูป พ.พาน พร้อมกับมัดลายให้ยาวจนเกิดเป็นลายกาบรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดขนาดใหญ่
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมคราม
มัดหมี่โดย นางโอสา เดชโฮม
ย้อมและทอโดย นางนงนุช ทองนู
ลายคองขอกาบ พ.พาน
ผ้ามัดหมี่ลายขอสลับคองกาบ
ลายหมีข้อขั้น เป็นลวดลายมัดหมี่พื้นฐานที่ถูกออกแบบให้มีการทอด้วยลวดลายขั้นระหว่างลวดลาย มัดหมี่แบบโบราณของพื้นที่อีสานเหนือ โดยถักทอให้มีลวดลายคั่นระหว่างลวดลายหลัก มัดลายตรงกลางเป็นลายขอต่อกัน เกิดเป็นลวดลายยาวต่อกันที่เรียกว่า “คองกาบ”
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมคราม
มัดหมี่โดย นางกม จ้องสีพันธ์
ย้อมและทอโดย นางจิรารัตน์ ชาสงวน
ลายขอสลับคองกาบ
ลายคองขอดอกไม้
การผสมผสานลวดลายที่ได้อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว และความสวยงามของดอกไม้ช่วยให้ดูมีชีวิตชีวา ลักษณะลวดลายเป็นรูปดอกไม้ มีกิ่งก้านเป็นเส้นตรง แบ่งเป็นกิ่งดอกไม้ข้างละ 2 ดอก แต่ละแถวทอห่างกัน ลายประกอบคือลายเส้นขอบจุดเล็กๆ เชื่อมโยงต่อกัน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมฝักคูนแก่
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมใบสมอ เปลือกต้นมะม่วง
มัดหมี่โดย นางบุญธรรม จันทะพันธ์
ย้อมโดย นางปรารถนา ชาสงวน
ทอโดย นางแสงดาว สุวะรักษ์
ลายคองขอดอกไม้
ผ้ามัดหมี่ลายหมี่กวด
ทอลวดลายเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด เรียงต่อกันเป็นแถวคล้ายตาข่าย มีลายหลักเป็นลายตาข่ายรูปสามเหลี่ยม ที่มัดอ้อมเข้ามาต่อกัน จนเกิดเป็นกรอบลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่
มัดหมี่โดย น.ส.นุ่ม ลิภา
ย้อมโดย นางอําพร ชาสงวน
ทอโดย นางลอง อุปพรม
ลายหมี่กวด
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาหว้า หมู่ที่ 3
ผ้ามัดหมี่ลายคองโซ่
ลายคองโซ่ เป็นผ้าลวดลายประยุกต์ของชนเผ่าล้อ มัดเป็นลายละเอียดดังเช่นเถาไม้ในป่า“ลายคองโซ่” คือลายหยักที่เชื่อมโยงกัน สื่อความหมายถึง ผลบุญที่แผ่กระจายเป็นสายตามการอุทิศ
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่
มัดหมี ย้อมและทอโดย นางอําพร ชาสงวน
ลายคองโซ่
ผ้ามัดหมี่ลายขอ
เป็นลายผ้าที่ประยุกต์มาจากลายโบราณ ต้นแบบมาจากตะขอที่ใช้ในครัวเรือน
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่
มัดหมี่และย้อมโดย นางอําพร ชาสงวน
ทอโดย นางทองอร ลิภา
ลายขอ
ผ้ามัดหมี่ลายนาคหัวซ้อง
ลายนาคหัวซ้อง คือลวดลายของพญานาคหลายหัวซ้อนกันอยู่ด้านบน ประกอบกับลายสามเหลี่ยมรวมกันเป็นกลุ่มลายขนาดใหญ่
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่
มัดหมี่และย้อมโดย นางอําพร ชาสงวน
ทอโดย นางลอง อุปพรม
ลายนาคหัวซ้อง
ผ้าลายมัดหมี่กาบ
ลายผ้าโบราณของชนเผ่าล้อ เป็นลายที่มีความประณีตมาก ลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ลายเส้นตัดกัน จนเกิดเป็นรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดทอต่อเนื่องชิดกันตลอดทั้งผืน
เส้นยืน : ใช้ฝ้ายไทยย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ใช้ฝ้ายซีกวง ย้อมคราม
มัดหมี่โดย นางนุ่ม ลิภา
ย้อมโดย นางอ้าพร ชาสงวน
ทอโดย นางมี วะเกิดเป้ม
ลายมัดหมี่กาบ
ผ้ามัดหมี่ลายเต่า
ลายเต่าเป็นลวดลายผ้าโบราณของชนเผ่าล้อ เป็นลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเต่าที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ํา ในชุมชนบ้านนาหว้า ถือกันว่าเป็นสัตว์มงคล สัญลักษณ์ของความมีอายุยืน
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมือง ย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่และฝักคูนแก่และเปลือกประดู่
มัดหมี่และย้อมโดย นางอําพร ชาสงวน
ทอโดย นางนุ่ม ลิภา
ลายเต่า
ผ้ามัดหมี่ลายหมากจับหว่าน
ลายหมากจับหว่านเป็นลวดลายโบราณที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพืชพรรณพื้นถิ่น “หมากจับ” ถักทอผสมผสานกับลายขอ ให้ความหมายอันเป็นมงคลคือ ความงามอย่างจับจิตจับใจ
เส้นยืน : ฝ้ายพันธุ์พื้นเมืองย้อมเปลือกประดู่
เส้นพุ่ง : ฝ้ายย้อมเปลือกประดู่และฝักคูนแก่และเปลือกประดู่
มัดหมี่และย้อมโดย นางอําพร ชาสงวน
ทอโดย นางมี วะเกิดเป้มลายหมากจับหว่าน
ผ้าลายโบราณที่ผ่านการพัฒนาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่หัวใจคือชุมชน
ผ้ามัดหมี่ลายนาค
วิถีชีวิตชุมชนพื้นถิ่นอีสานเหนือมีความเชื่อและศรัทธาในตํานานของพญานาคมาสืบเนื่องยาวนาน สร้างแรงบันดาลใจในการมัดและทอผ้ามัดหมี่ลวดลายพญานาค
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมใบหูกวาง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านมัดขาวโอบด้วยเปลือกต้นกระโดน ย้อมทับด้วยเมล็ดคําแสด
สีคั่น กระสวยที่ 1 ย้อมใบหูกวาง / กระสวยที่ 2 ย้อมเปลือกกระโดน / กระสวยที่ 3 ไหมขาว
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมโดย นางใส ชาสงวน
ทอโดย นางวัฒนาวัลย์ ชาสงวนลายนาค
ผ้ามัดหมี่ลายกาบ
ลายกาบ เป็นลายผ้าโบราณของชนเผ่าล้อ มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ลายเส้นตัดกันจนเกิดเป็นรูป สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ทอต่อเนื่องกันตลอดทั้งผืน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมเปลือกเงาะ เปลือกค้อ
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมเข
มัดหมี่โดย นางบานใจ คําชนะ
ย้อมและทอโดย นางอาภรณ์ ชัยบินลายกาบ
ผ้ามัดหมี่ลายขอ
ลายขอ เป็นลายผ้าที่ประยุกต์มาจากลวดลายโบราณ มีต้นแบบมาจากตะขอที่ใช้ในครัวเรือน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมเปลือกเงาะและเปลือกมังคุด
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง หมักโคลน
มัดหมีโดย นางบานใจ คําชนะ
ย้อมและทอโดย นางอาภรณ์ ชัยบินลายขอ
ผ้ามัดหมี่ ลายตุ้มดอกรัก
ลายตุ้มดอกรัก มีที่มาของลวดลายจากพวงมาลัยตุ้มดอกรักที่ใช้บูชาพระ ถักทอขึ้นด้วยลวดลายที่มีความร่วมสมัย หากแต่ยังคงสะท้อนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของสมาชิกชุนชนบ้านนาหว้าที่มีความศรัทธา ในพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้น
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมใบหูกวาง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้าน ย้อมครั่ง
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมโดย นางใส ชาสงวน
ทอโดย นางวัฒนาวัลย์ ชาสงวนลายตุ้มดอกรัก
ผ้ามัดหมี่ลายของุ้ม
ลายขอจุ่ม มีลายหลักคือลายขอ และมีลายประกอบเป็นลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดที่มีดอกอยู่ข้างใน ถักทอเรียงเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องกัน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมและทอโดย นางจิรภา แมดมิ่งเหง้าลายของุ้ม
ผ้ามัดหมี่ลายหมากจับหว่าน
หมากจับ พืชพื้นถิ่นพบได้ตามแหล่งน้ําในชุมชน ก่อเกิดแรงบันดาลใจในการถักทอผ้าลายหมากจับหว่าน ที่ให้ความหมายอันเป็นมงคลคือ ความงามอย่างจับจิตจับใจ
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมครั่ง
มัดหมี่และย้อมโดย นางศุภลักษณ์ แมดมิ่งเหง้า
ทอโดย น.ส.ลักษณาวดี แมดมิ่งเหง้าลายหมากจับหว่าน
ผ้ามัดหมี่ลายกงน้อย
ลายกงน้อย เป็นลวดลายโบราณของชนเผ่าล้อ ลวดลายมาจากรูปทรงของ “กง” ที่ใส่เส้นไหม เส้นฝ้าย ทอให้ลวดลายเรียงต่อกันเต็มผืน
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมครั่ง
เส้นพุ่ง : ไหมจุลย้อมใบขี้เหล็ก และใบหูกวาง
ย้อมและมัดหมี่โดย นางศุภลักษณ์ แมดมิ่งเหง้า
ทอโดย น.ส.ลักษณาวดี แมดมิ่งเหง้าลายกงน้อย
ผ้ามัดหมี่ลายคองขอกาบ พ.พาน
ลายคองขอกาบ พ.พาน เป็นลายประยุกต์ที่ถักทอลายขอให้มาต่อกัน จนเกิดเป็นรูป พ.พาน พร้อมมัดลายยาวให้เกิดลายกาบ รูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดขนาดใหญ่
เส้นยืน : ไหมจุล ย้อมคราม
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมแก่นขนุน ใบขนุน และใบมะม่วง
มัดหมี่ย้อมและทอโดย นางบุญธรรม ชาสงวนลายคองขอกาบ พ.พาน
ผ้ามัดหมี่ลายตาหมากนัด
ลายตาหมากนัด มีลักษณะคล้ายตาสับปะรด ในพื้นที่อําเภอนาหว้า ชาวบ้านมักปลูกสับปะรดไว้ที่หัวไร่ ปลายนา และสับปะรดยังเป็นพืชเศรษกิจที่สร้างรายได้ จึงนํามาถักทอเป็นลายอัตลักษณ์ประจําท้องถิ่น
เส้นยืน : ไหมจุลย้อมเปลือกต้นสะเม็ก
เส้นพุ่ง : ไหมบ้านย้อมใบหูกวาง ฝักคูนแก่ ครั่ง และเปลือกต้นเสียด
มัดหมี่โดย นางชฎา แมดมิ่งเหง้า
ย้อมและทอโดย นายวีระศักดิ์ มาตชัยเคน
ลายตาหมากนัด
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: