ในพื้นที่ อ.ละงู จ.สตูล ผลิตผ้ามัดย้อม บาเต๊ะ-บาติก ด้วยการสกัดสี จากดินท้องถิ่นแห่งแรกในไทย ผ่านลวดลายฟอสซิลโบราณ เตรียมพร้อมเปิดประตูเมื่อท่องเที่ยวสตูล สู่ อุทยานธรณีโลก จีโอปาร์ค ผ่านของฝากอันล้ำค่า สิ่งของเครื่องใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ผลิตจาก วัตถุดิบธรรมชาติ มักจะได้รับความนิยม เรียกความสนใจจากผู้ใช้เป็นอย่างมากในยุคสมัยของการรักษ์ สุขภาพ ประกอบกับ จ.สตูล ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรณีวิทยา พร้อมผลักดันก้าวเข้าสู่อุทยานธรณี โลก จากเหตุผลหลายอย่างประกอบกัน ทําให้กลุ่มผลิตผ้าพื้นเมือง ใน จ.สตูล อย่าง กลุ่มปันหยาบาติก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านปากละงู ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล หันมาผลิตผ้ามัดย้อมที่ใช้สีจากดินหินปูนผุใน หมู่บ้านชุมชน สีจากกาบมะพร้าว ซึ่งให้สีธรรมชาติดูสบายตา ไม่ฉูดฉาด และสวยงามไม่แพ้สีสังเคราะห์ สวมใส่ด้วยความมั่นใจถึงความปลอดภัยด้วยสี และกระบวนการที่มาจากธรรมชาติ และทํามือทุกชิ้น พร้อม เพิ่มเสน่ห์บนผืนผ้าด้วยลายฟอสซิลที่เรียกความสนใจให้แก่ลูกค้าที่มาหาซื้อเป็นจํานวนมาก โดยเฉพาะ ลวดลายฟอสซิลหอยหรือแอมโมไนท์ เมื่อพิมพ์ลายออกมาแล้วดูสวย และดูมีคุณค่ามาก
ความงดงามของลวดลายมัดย้อมที่มีสีสันเป็นเอกลักษณ์จากวัสดุทางธรณี บวกกับฝีมือวาดลายฟอสซิลลงบนผืนผ้า ที่ไม่เหมือนใคร วันนี้ช่วยให้ กลุ่มปันหยาบาติ กลับมาฟื้นฟูกิจการ ได้อีกครั้ง การอยู่ในพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูลทําให้กลุ่มปันหยาบาติกนําเอาวัสดุทางธรณีมาเป็นส่วนประกอบในการ สร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะ อย่างผ้ามัดย้อมผืนนี้ใช้ดิน Terra rossa ที่เกิดจาก ย่อยสลายของหินปูน ทําให้ได้สีน้ําตาลอมส้มที่เป็นเอกลักษณ์ต่างจากผ้ามัดย้อมที่เคยเห็น รวมถึงการวาดลวดลาย ฟอสซิล ในทะเล โบราณยุคออร์โดวิเชียนช่วยเล่าเรื่องราวของอุทยานธรณีโลก ได้เป็นอย่างดี วันนี้กลุ่มปันหยาบาติ กกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ที่ช่วยกระจายรายได้ให้กับคนในชุมชน รวมถึงดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เคยออกไปหางานทําต่างถิ่น ให้กลับมายังบ้านเกิดเพื่อช่วยต่อยอดกิจการชุมชนเราสามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้เลี้ยงครอบครัวได้จากเมื่อก่อนรายได้ไม่สามารถที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ที่ทํางานที่อื่นหรือว่าเรียนจบใหม่
สามารถหารายได้ในชุมชนของเราเองโดยไม่ต้องออกไปหางานทําที่อื่น กลุ่มปันหยาบาติก ศิลปะที่นําเสนอ เรื่องราวของอุทยานธรณีสตูล ลวดลายที่เชื่อมโยงกับเรื่องราวทางธรณีวิทยา ลวดลายผ้าบาติกของกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนปันหยาบาติกมีความพิเศษกว่าที่อื่นเนื่องจากมีการพัฒนาและออกแบบวาดลวดลายที่ สอดคล้องกับเรื่องราวทางธรณีวิทยาของอุทยานธรณีสตูลโดยประยุกต์เอาภาพจําลองสภาพแวดล้อมทะเล โบราณในยุคออร์โดวิเชียนหรือเมื่อประมาณ 444 ล้านปีก่อน มาทําเป็นลายผ้าโดยมี ปลาหมึกโบราณหรือ นอติลอยด์ และไทรโลไบท์ เป็นตัวเอก
การใช้วัสดุจากอุทยานธรณี การใช้วัสดุธรรมชาติ พวกแร่ธาตุ ใบไม้ เปลือกไม้ ผลไม้ ที่เกิด ใน พื้นที่อุทยาน มาทําเป็นวัสดุย้อมสี เช่น สีแดงที่ได้จากดินที่ผุผังจากพื้นที่หินปูนที่ได้สีแดงจากธาตุเหล็ก สี เหลืองจากโคลน สีนํ้าตาลจากเปลือกโกงกาง เป็นต้น ถือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ธรรมชาติในพื้นที่ อุทยานธรณี มีเอกลักษณ์การทําบาติกที่แตกต่างจากที่อื่น โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ สีดินเทอราโรซ่าที่ผุพัง จากภูเขาหินปูนอยู่ในช่วงยุคออโดวิเชียนประมาณ505-440 ล้านปีก่อน และมีการใช้สีจากวัสดุ ธรรมชาติอื่น ๆ นํามาย้อมผ้า พร้อมเพิ่มเสน่ห์บนผืนผ้าด้วยลวดลายฟอสซิล ที่เชื่อมโยงเรื่องราวความ โดนเด่นทางธรณีของอุทยานธรณีโลกสตูล ทําให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
คุณค่าและความสําคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละระดับระดับปัจเจกบุคคลบุคคลหรือลูกค้าที่ได้มาซื้อผ้าเพื่อนําไปตัดหรือต้องการให้ตัดแบบสําเร็จรูป จะได้ลวดลาย ที่เป็น และได้ผ้าหรือชุดที่มีการวาดลวดลายหรือแบบที่ต้องการได้เพราะทางร้านเอกลักษณ์ของจังหวัดสตูล ได้ทําการวาดลวดลายด้วยตัวเองทั้งหมด รูปแบบของเสื้อผ้าเราสามารถออกแบบเองหรือให้ทางร้าน ออกแบบให้ก็ได้ และยังมีสินค้าอย่างอื่นมากมายนอกจากเสื้อผ้าที่ทําจากผ้าบาติกให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออีก ด้วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าพันคอ ผ้าคลุม เป็นต้น ซึ่งเป็นงานฝีมือที่หาได้ยากในปัจจุบันเพราะเป็นงานที่ต้อง ใช้ความสามารถและความชํานาญในการทําทุกขั้นตอนตั้งแต่โครงร่าง การวาด รวมถึงการลงสีธรรมชาติ
ทั้งหมดซึ่งช่างวาดลวดลายได้สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดสตูลและสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ระดับครอบครัวครอบครัวที่เป็นลูกค้าจะได้รับผ้าบาติกที่วาดลวดลายด้วยช่างฝีมือดีของกลุ่มปันหยาบาติกของ จังหวัดสตูลแล้ว ยังได้รับสินค้าอื่นๆอีกมากมายที่ร้านออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้น ลวดลายส่วนใหญ่จะเป็นสัญลักษณ์หรือเอกลักษณ์ของจังหวัดสตูล และเป็นของดีเมืองสตูล
ซึ่ง ที่มีการเป็นที่รู้จักในที่ไม่ได้ใช้เปิดกิจการมายาวนาน และครอบครัวของผู้ประกอบกิจการสามารถทําให้จังหวัดสตูล เรื่องของผ้าบาติก และสามารถได้เห็นถึงขั้นตอนการวาดลวดลายด้วยตัวเอง เทคโนโลยีมาใช้ในการทํา เป็นงานฝีมือล้วนๆ และสีที่ใช้เป็นสีที่ได้จากธรรมชาติทั้งหมดซึ่งเป็นงาน ที่หายากในปัจจุบันและสามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ปี ระดับชุมชนท้องถิ่นคนในท้องถิ่นได้รู้จักใช้ผ้าบาติกที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ และของจังหวัดสตูล กลุ่มปันหยา บาติกสามารถทําให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในชุมชน และในจังหวัดสตูลรู้จักผ้าบาติก และรู้ถึงลวดลายที่ แสดงถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ ของจังหวัดสตูล ทําให้ชุมชน ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนในเรื่อง ของการนําสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ไปวางขายเพื่อสร้าง รายได้ให้แก่ชุมชนหรือครัวเรือนที่ทําผ้าบาติกขาย หรือส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ หันมาสวมใส่เสื้อผ้าบาติกเพื่อเป็นการอนุรักษ์ และช่วยในเรื่องการประชาสมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากมายยิ่งขึ้นซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณค่าและมูลค้ามากยิ่งขึ้น
ขอบคุณแหล่งที่มา