ผ้าจวนตานี หรือผ้ายกตานี เป็นผ้าพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดปัตตานีและจังหวัดภาคใต้ตอนล่างของไทย ผ้าชนิดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมในชนชั้นสูงในอดีตเนื่องจากเป็นผ้าที่มีราคาแพง ลักษณะเด่นของผ้าจวนตานีคือการมีลวดลายตามชายผ้า หรือที่เรียกว่า "จูวา" ซึ่งหมายถึงร่องหรือทางในภาษามลายู
ผ้าจวนตานีมีการซื้อขายตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และค่อยๆ สูญหายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่างทอผ้าปัตตานีรุ่นเก่าเรียกผ้าชนิดนี้ว่า "จูวา" ซึ่งหมายถึงลวดลายที่ปรากฏบริเวณชายผ้าทั้งสองด้าน หากลวดลายวางเป็นแนวในช่องขนานเรียกว่า "ล่องจูวา" และถ้าลายจูวาเต็มตลอดทั้งผืน จะเรียกว่า "ผ้าลีมาร์" ซึ่งจัดว่าเป็นผ้าชั้นสูงที่ต้องใช้ความประณีตในการทอ
ชนิดผ้าจวนตานีนี้ได้รับการพิจารณาว่าเป็นผ้าของชนชั้นสูงและมีราคาแพง เดิมๆ เป็นที่นิยมมากในจังหวัดปัตตานี แต่ได้ถูกยกเลิกการทอเมื่อประมาณรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยใช้วิธีนำเข้าจากรัฐกลันตันและตรัง กานู ของมลายูแทน แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ข้าวยากหมากแพง การติดต่อมีอุปสรรค ผ้าดีมานําเข้าจึงไม่มี และหันมาทอผ้าชนิดนี้ใหม่
จำนวนลวดลายบนผืนผ้า จะมีตั้งแต่ 5-7 ลาย
ผ้าจวนตานีมีหลากหลายรูปแบบทั้งในด้านกรรมวิธีการทอและลวดลาย โดยมีการทอจากเส้นไหมและเส้นฝ้าย และยกด้วยเส้นเงินหรือเส้นทอง ผ้าชนิดนี้มีลวดลายแทรกอยู่ระหว่างผืนผ้าและชายผ้าทั้งสองด้าน สีของผ้ามักใช้สีที่ตัดกัน โดยบริเวณท้องผ้าจะใช้สีหลัก เช่น ม่วง เขียว ฟ้า น้ำตาล ส่วนชายผ้าทั้งสองด้านจะใช้สีแดง โดยผ้าจวนตานีอาจมีลวดลายตั้งแต่ 5-7 ลาย การทอลวดลายมีทั้งวิธีการมัดหมี่และการยกสอดดิ้น ทำให้ผ้าชนิดนี้มีลักษณะพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
การทอลวดลายมีทั้งวิธีการทอแบบมัดหมี่ และทอแบบยกสอดดิ้นเสริมในผืนผ้า
ผ้าจวนตานีมีสีแดงเข้มที่สะดุดตา และลวดลายวิจิตรพิสดารที่สวยงาม ชื่อ "จวนตานี" มาจากภาษามลายูที่หมายถึง "ร่อง" หรือ "ทาง" และเป็นผ้าที่มีลวดลายการถักทอเฉพาะถิ่น
ลายแถบ ("ล่องจวน" ที่มาของชื่อผ้า "จวนตานี")
ลวดลายสานแบบตาข่าย
ลวดลายบนผ้าจวนตานีสามารถแบ่งเป็นกลุ่มต่างๆ ได้รวมถึงลวดลายที่เป็นลักษณะเด่นของแต่ละกลุ่ม มีกลุ่มลวดลายตาหมากรุก ลวดลายดาวกระจาย ลวดลายก้านแย่ง ลวดลายตัวอักษรอาหรับ และลวดลายจวนตานีที่มีรูปแบบเฉพาะ
ลวดลายตารางหมากรุก
ลวดลายดาว (โคมทอง)
ผ้าจวนตานีใช้ในโอกาสพิเศษเท่านั้น โดยผู้หญิงมักใช้คลุมศีรษะ คล้องคอ หรือนุ่งคาดอก ส่วนผู้ชายจะใช้นุ่งคาดสวมทับด้านบนของกางเกง
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา