การทอผ้ามีความเป็นมานานนับหลายพันปี ซึ่งมีบ้างที่น่าสนใจอันด้วยความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าพูดถึง ในบทความนี้ร้านชอบไหมจะคุณผู้อ่านไปค้นพบเรื่องราวของผ้าภูอัคนี หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ จากหมู่บ้านเจริญสุข จังหวัดบุรีรัมย์
ผ้าทอภูอัคนี หรือ ผ้าย้อมดินภูเขาไฟ อยู่ในหมู่บ้านเจริญสุข อําเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่นําวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ ซึ่งคือกรรมวิธีในการย้อมสีผ้าให้ออกมามีสีสันสวยงามเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการนําผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมไปย้อมกับ “ดินภูเขาไฟ” ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสําคัญที่หาได้ไม่ยาก เพราะว่าหมู่บ้านเจริญสุขตั้งอยู่ใกล้กับ “เขาพระอังคาร” ที่เป็น 1 ใน 6 ภูเขาไฟเก่าแก่ที่ดับแล้วของจังหวัดบุรีรัมย์ ทำให้ดินบริเวณนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟที่ปะทุออกมาในอดีต ทั้งยังเป็นประโยชน์ในการเพาะปลูกอีกด้วย อีกทั้งชาวบ้านเจริญสุขยังได้คิดค้นวิธีการนําดินเหล่านี้มาใช้ย้อมผ้าด้วย
จากการพบทรัพย์จากผืนดิน ก็ได้มีการนํามาผสมผสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์สร้างชื่อที่มีเอกลักษณ์ด้านสิ่งทอชื่อว่า “ผ้าภูอัคนี” ที่ผ่านการผสมผสานจากผ้าฝ้ายสีขาวกลายมาเป็นสีดินน้ำตาลอ่อนกับน้ำตาลแดงแบบดินภูเขาไฟ ซึ่งขั้นตอนการผลิตผ้าภูอัคนีจะเริ่มด้วยการทำน้ำดินภูเขาไฟ โดยใช้ดินภูเขาไฟที่อยู่ใกล้เขาพระอังคารมาคัดเศษผงที่เจือปนออก จากนั้นก็นําไปผสมกับน้ำในอัตราส่วนดินภูเขาไฟ 3 กิโลกรัมต่อน้ำเปล่า 10 ลิตร ซึ่งก็จะได้น้ำดินภูเขาไฟที่มีสีน้ำตาล (ในขั้นตอนนี้หากอยากได้ผ้าสีเข้มก็ให้ผสมน้ำน้อยลง และหากอยากได้สีอ่อนก็ให้ผสมน้ำมากขึ้น) ขั้นตอนถัดไป คือขั้นตอนการย้อมสีผ้า โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการนําผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมที่ต้องการย้อมสี (ใช้ผ้าน้ำหนักเพียง 1 กิโลกรัมในการย้อมสีแต่ละครั้ง) นําไปแช่ในน้ำดินภูเขาไฟที่เตรียมไว้ โดยจะแช่ทิ้งไว้ประมาณ 8 - 10 ชั่วโมงก็จะได้ผ้าสีน้ำตาลสีสันสวยงามตามที่ต้องการ จากนั้นก็จะนําผ้าไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วนําไปตากราวและยึดให้ตรง
หมู่บ้านเจริญสุขยังมีภูมิปัญญาที่จะรักษาสีผ้าให้คงทนด้วยเช่นกันนั้นคือ การนําผ้าที่ได้จากการย้อมดินภูเขาไฟไปต้มกับ “น้ำเปลือกต้นประดู่” ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาชาวบ้านในการนําวัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ขั้นตอนการนําผ้าแช่น้ำเปลือกประดู่ต้มให้ฟังอีกว่า นําเปลือกต้นประดู่มาต้มในน้ำ ซึ่งน้ำต้มจะต้องร้อนแต่ไม่ให้เดือดจนเกินไป หลังจากนั้นนําผ้าที่ต้องการลงไปแช่ประมาณครึ่งชั่วโมง ขั้นตอนนี้จะเป็นการป้องกันการตกของสีอีกครั้ง ทั้งในน้ำเปลือกต้นประดู่ก็ยังมียางและสีที่คล้ายกับสีดินภูเขาไฟ จึงเป็นการเคลือบสีไปในในตัว ผ้าที่ได้จึงเงางามยิ่งขึ้นและไม่ตกสี
ขอบคุณแหล่งที่มา: