ผ้าทออ่างศิลาหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ผ้าทออ่างหิน” เป็นงานหัตถศิลป์ที่มีชื่อเสียงเฉพาะในพื้นที่ท้องถิ่นของอ่างศิลามาตั้งแต่สมัยอดีต อีกทั้งยังเป็นแหล่งทอผ้าทรงของกษัตริย์เช่นเดียวกับผ้าทอเมืองจันทบุรี ช่างทอผ้าอ่างศิลา-บ้านปึกมีความเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น รัชสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งมีความเชื่อกันว่าการทอผ้าที่นี่ส่วนหนึ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากกลุ่มมิชชันนารีอเมริกัน และมีการเล่าต่อกันมาอีกว่า สตรีชาวอ่างศิลาได้ติดตามเจ้านายเข้าพระราชวังไปเป็นครูผู้สอนการทอผ้าให้กับชาววังสมัยนั้น
การทอผ้าที่อ่างศิลา แต่ก่อนชาวบ้านจะทอหลังจากเว้นฤดูทํานา เมื่อทำเสร็จก็จะขายกันอยู่ในพื้นที่ และเมื่อผ้าทอได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากคุณภาพของผ้าและการทอที่มีฝีมือประณีต จึงทําให้ชุมชนที่ทอผ้าต้องเพิ่มจํานวนการผลิตไปตามการขยายตัวของตลาด ซึ่งในขณะนั้นชายทะเลแถบอ่างศิลาเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ไปแวะเวียนท่องเที่ยวอยู่เป็นนิจ ทำให้มีความจําเป็นต้องเพิ่มจํานวนการผลิตให้มากตามไปด้วย จึงได้มีการว่าจ้างชาวบ้านที่ตําบลบ้านปึกซึ่งตั้งอยู่ในละแวกใกล้กันให้เข้ามาช่วยกันทอผ้า ซึ่งชาวบ้านอ่างศิลาจะทําหน้าที่เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบในการทอผ้าส่วนชาวบ้านบ้านปึกจะเป็นผู้ทอ แต่ต่อมาในช่วงต้นของแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ได้เกิดปัญหาด้านวัตถุดิบเศรษฐกิจและด้านแรงงาน ทําให้ผ้าทออ่างศิลาเริ่มซบเซาลง ชาวบ้านจึงหันไปประกอบอาชีพอื่นอีกทั้งได้เกิดโรงงานทอผ้าที่ผลิตด้วยเครื่องจักรกลในจังหวัดชลบุรีขึ้น (ปัจจุบันได้ปิดทําการไปแล้ว) ซึ่งรายได้ที่ชาวบ้านได้รับจากโรงงานแน่นอนกว่าการทอผ้าด้วยมือ อีกทั้งยังประหยัดในเรื่องของเวลาและขั้นตอนต่างๆ ด้วย จึงเป็นผลให้ชาวบ้านอ่างศิลาเลิกการทอผ้าด้วยมือ จนในที่สุดผ้าทอที่ผลิตจากเครื่องจักรกลก็ได้เข้ามาจําหน่ายแทนที่ผ้าทออ่างศิลาและยังคงเรียกชื่อผ้าทออ่างศิลาอยู่เช่นเดิมจนถึงปัจจุบัน
ด้าย/หลอดด้ายใหญ่/หลอดด้ายเล็ก
กระวิงใน: เครื่องมือที่ใช้ในการกรอด้าย มีลักษณะเป็นไม้ไผ่เหลาบางรวมกันเป็นแฉก มีแกนไม้ไว้สําหรับหมุน
จันดวง: เครื่องมือสําหรับหวีด้ายหลังจากการขยําข้าวสุก เป็นกาบมะพร้าวที่ทํามาจากมะพร้าวทึนทึก
แปรงหวี: เครื่องมือที่ใช้สําหรับหวีเส้นด้ายที่พันกัน แปรงหวีทําจากเปลือกกาบตาล และไม้ไผ่ มัดรวมกันหรือถัก
กี่หรือหูก: โครงไม้สี่เหลี่ยมสําหรับเป็นที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น โตงเตง รอก
เฝือ/รางหลอด: เครื่องมือที่ใช้สําหรับการค้นลาย
มือลิง: เครื่องมือในการนับรอบของลายผ้า มีลักษณะเป็นด้ามเสียบอยู่ตรงเฝือซีกสุดท้าย
ไม้หัวหูก: เครื่องมือประกบด้ายกับกระดานหูก ทําหน้าที่ขัดเส้นด้ายมีลักษณะเป็นไม้กลมๆใส่ไว้ ในร่องกระดานหูกทั้งบนและล่าง
กระดานหูก: เครื่องมือที่ใช้เพื่อม้วนเส้นด้ายเส้นยืน มีลักษณะเป็นไม้กระดานแผ่นใหญ่ ที่ใช้ม้วนด้าย
เพื่อนําไปแขวนไว้ที่บริเวณโตงเตง
ตะกอและตับตะกอ: เครื่องมือเพื่อแยกเส้นด้ายให้เกิดลายขัดหรือเป็นตัวที่ทําให้เกิดลายผ้า ตะกอเป็นลายขัดธรรมดาจะเรียกว่าลายผ้า 2 ตะกอ แต่ถ้าเป็นลายดอก เช่น ลายดอกพิกุล จะเป็นลายผ้า 4 ตะกอ มีลักษณะเป็นเชือกไนรอนเส้นเล็กๆ ร้อยไขว้กันเพื่อให้เส้นด้ายลอดผ่าน เรียงกันเป็นจํานวนหลายร้อยเส้นตามขนาดของฟันฟืม ตะกอกับฟันฟืมจะต้องมีเส้นด้ายที่เท่ากัน
ฟืม: เครื่องมือใช้เพื่อกระทบเส้นด้ายให้แน่น เป็นไม้แกะสลักลวดลาย แขวนไว้ประกบด้วยฟันฟืม สายฟืม กระดูกงู และน่องกระบือ
ฟันฟืม: เครื่องมือเพื่อแยกเส้นด้ายให้ลอดผ่านฟันฟืมและเป็นตัวกระทบให้เส้นด้ายแน่น
คางบนฟืม คางล่างฟันฟืม: เครื่องมือที่นํามาประกบเพื่อยึดฟันฟืมให้มีความแน่นเป็นไม้ 2 ชิ้น ทําร่องสําหรับนําฟันฟืมมาใส่ในร่อง โดยมีไม้น่องกระบือกับกระดูกงูเป็นตัวกั้นระดับไม้ไม่ให้เคลื่อนที่หรือเป็นกรอบรอบฟันฟืม
น่องกระบือ: มีหน้าที่กั้นคางบน คางล่างฟืมไม่ให้เคลื่อนที่ มีลักษณะคล้ายลิ่มไม้
กระดูกงู: ใช้สําหรับยึดฟันฟืมกับฟืม เป็นไม้เล็กๆกัน คางบนคางล่าง
สายฟืม: ใช้ในการโยงฟืมให้คงที่อยู่ในระดับเดียวกันและยึดฟืมให้กระทบผ้าได้แน่นหนาเป็นเชือกโยงฟืมกับราวฟีม
ลูกรอก: ทําหน้าที่เลื่อนตะกอขึ้นลง
โตงเตง: ใช้สําหรับยึดกระดานหูก เป็นแผ่นไม้สี่เหลี่ยมด้านบนเจาะรูใส่ห่วงหรือเชือกแขวนราวโตงเตง ด้านล่างเป็นรูตะขอหงายขึ้นสําหรับใส่ไม้หูก
ราวโตงเตง: เป็นไม้ไผ่หรือไม้จริง ที่ยาวกว่าความกว้างของกี่วางพาดกี่ด้านบน ด้านล่างจะวางในตะขอของโตงเตง
กะหนัด: ใช้สําหรับคั่นเส้นด้ายไม่ให้พันกัน เป็นการแบ่งด้ายเป็นเป็นชุดขึ้นลง มีลักษณะเป็นไม้ไผ่เหลาแบน
ตีนหูก: ใช้สําหรับเหยียบเพื่อยกตะกอ โดยจะผูกเชือกไว้กับตับตะกอ
กระสม: ใช้สําหรับขึงผ้าและม้วนผ้า เป็นไม้คว้านเป็นร่องตรงกลาง ในร่องมีฟันหมาสําหรับเกี่ยวผ้า
กระสวย: เป็นเครื่องบรรจุหลอดด้าย ทําหน้าที่นําเส้นด้ายไปขัดกับเส้นด้ายยืน
ลูกคราด: มีหน้าที่เรียงเส้นด้ายระหว่างช่องกะหนัดที่สางเส้นด้ายให้เรียงเส้นขณะทอผ้า
ขั้นตอนที่ 1 นําด้าย (จะใช้ด้ายโทเร /ด้ายฝ้าย) ที่ซื้อมาจากบริษัท ใส่กระวิงเพื่อทําการกรอด้ายใส่หลอด
ขั้นตอนที่ 2 นําด้ายที่กรอใส่หลอด ใส่รางหลอดเพื่อทําการค้นลายผ้า
ขั้นตอนที่ 3 ดึงด้ายจากหลอดที่อยู่ในรางหลอดเพื่อทําการค้นลายผ้าตามลายที่ต้องการ โดยจะใช้เฝือทําการค้นลาย โดยจะนําด้ายคล้องกับแกนไม้ในแต่ละหลักซึ่งจะเป็นตัวกําหนดความยาวของผ้าที่เราจะทอ
ขั้นตอนที่ 4 การม้วนด้าย และลากด้าย โดยจะตอกหลักเพื่อทําการลากด้าย
ขั้นตอนที่ 5 การม้วนด้ายใส่กระดานหูก เพื่อนําไปสืบและขึ้นกี่ทอผ้า ทําการทอ
ขั้นตอนที่ 6 การสืบ การจัดด้ายทีละเส้น ต่อด้ายกับตะกอ ร้อยเข้าฟืม ผ่านฟันฟืมเพื่อทําการทอ
ขั้นตอนที่ 7 นําด้ายจากการสืบเสร็จเรียบร้อยขึ้นกี่ทอผ้าเพื่อทําการทอ
ขั้นตอนที่ 8 การทอต้องสัมพันธ์ระหว่างมือ (กระสวย) กับเท้า (ตีนหูก) แล้วลากฟืมกระทบเพื่อให้เนื้อด้ายแน่น
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: