ผ้าทอไทครั่งเสน่ห์ผ้าทอพื้นเมืองชาวลาวเวียงเนินขามที่ยังคงสืบทอดประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต และ ชาติพันธุ์ของตนเอาไว้ได้หลายอย่างจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น การทอผ้า การแต่งกาย อาหารการกิน การฟ้อนรํา ตลอดจนภูมิปัญญาด้านสมุนไพรและนําไปสู่การท่องเที่ยวโดยชุมชน
“ชุมชนเนินขาม” เป็นชุมชนไทยเชื้อสายลาวเวียงหรือลาวเวียงจันทน์ มีถิ่นฐานเดิมมาจากเมืองเวียงจันทน์และหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อพยพเข้ามาประเทศไทยด้วยสาเหตุจากภัยสงคราม ชาวลาวกลุ่มนี้ได้ตั้งบ้านเรือนอยู่แถบสุพรรณบุรีจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 และได้มีการอพยพครัวเรือนมาหาที่ทํากินที่อุดมสมบูรณ์กันที่ตําบลเนินขาม อําเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท
เมื่อช่วงปี 2559-2560 ได้มีการพบว่าสมัยอดีตชาวเนินขามมีอาชีพทอผ้ากันอยู่แล้วทั้งหมู่บ้าน ซึ่งลวดลายจะเป็นลวดลายโบราณที่มองว่าฝีมือการทอผ้าของชาวบ้านมีความละเอียดและงดงามมาก เพราะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่น และได้มีการขอจดลิขสิทธิ์ลวดลายผ้าเพื่อจะได้เป็นเอกลักษณ์ของชาวลาวเวียงเนินขาม แต่ปรากฏว่าไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ เนื่องจากเป็นลวดลายผ้าโบราณ ซึ่งไม่ว่าที่ใดมีชาวลาวเวียงอาศัยอยู่ก็จะถือว่าเป็นลวดลายเดียวกันสําหรับกลุ่มชาติพันธุ์ จึงถือเป็นทรัพย์สมบัติของบรรพบุรุษที่ไม่ถือเป็นของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จึงไม่อาจจดลิขสิทธิ์เป็นของตนได้ ทําให้มีการเกิดแนวคิดว่าจะทําอย่างไรถึงให้จังหวัดชัยนาท โดยเฉพาะ “ชาวลาวเวียงบ้านเนินขาม” ได้มีลวดลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จึงได้มีการศึกษาประวัติของอำเภอเนินขาม
ย้อนกลับไปในอดีตอําเภอเนินขามจะมีเนินและต้นมะขามอยู่เป็นจํานวนมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ “เนินมะขาม” จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นชื่อ “เนินขาม” ในปัจจุบัน “ต้นมะขาม” เป็นต้นไม้ที่มีชื่อมงคล คือ ความน่าเกรงขามเลยได้มีการไปเก็บกิ่งต้นมะขามนํามาวาดและได้นำเสนอให้กับผู้ใหญ่บ้านของชัยนาทในเวลานั้น ปรากฏว่า รูปวาดนี้ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก จึงเกิดเป็น “ลายช่อใบมะขาม” ที่เป็นลายประจำจังหวัดชัยนาทนับตั้งแต่นั้นมา และในปัจจุบันผ้าทอพื้นเมือง “ลายช่อใบมะขาม” ก็สามารถสร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนอําเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท จนกลายเป็นที่รู้จักของคนที่ชื่นชอบในเรื่องของผ้าทอพื้นเมือง
จุดเด่นผ้าทอพื้นเมืองและภูมิปัญญาการเลือก “สีทอผ้า” ชาวลาวเวียงเนินขาม จังหวัดชัยนาท “ชาวลาวเวียงเนินขาม” มีการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ที่มีความภาคภูมิใจของชุมบ้านเนินขาม ความนิยมในการทอผ้าสีสันที่ชาวลาวเวียงบ้านเนินขามนิยมใช้มาก คือ สีครามและสีแดง ตกแต่งลวดลายด้วย สีเขียว สีขาว สีดํา และสีเหลือง ทำให้ผ้าถุงมัดหมี่ของชาวลาวเวียงเนินขามมีลวดลายที่งดงามตามวัฒนธรรมอย่างลงตัว
ความหมายของสีที่สอดแทรกอยู่บนผืนผ้าของชาวลาวเวียงเนินขาม มีดังนี้
สีดํา หมายถึง ความเข้มแข็ง
สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์
สีแดง หมายถึง อํานาจ
สีเหลือง หมายถึง ความมั่งคั่ง สว่างไสว
สีเขียว หมายถึง ความอุดมสมบรูณ์
สีคราม หมายถึง ความกว้างใหญ่ดั่งท้องฟ้า
การทอผ้าในชุมชนลาวเวียงบ้านเนินขาม แต่เดิมจะเป็นการทอผ้าเพื่อใช้ในครัวเรือนเป็นผ้านุ่งสีธรรมชาติเท่านั้น ซึ่งผ้ามัดหมี่จะเป็นผ้าที่มีลวดลายง่ายๆ ตามที่ได้บันทึกในอดีต ส่วนผ้าซิ่นตีนจกจะมีขนาดตีนจกที่ไม่ใหญ่มาก เนื่องจากผ้าทอในสมัยนั้นจะเป็นผ้าทอเพื่อการดํารงชีวิตยังไม่ใช่การทอเพื่อค้าขาย แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนการทอผ้าของชาวเนินขามจึงมีลวดลายเพิ่มเข้ามาและสีสันที่สวยงามมากขึ้น โดยพัฒนาจากลวดลายโบราณที่ได้บันทึกในอดีต และมีการเพิ่มจินตนาการในการตกแต่งแต้มสีสันเกิดเป็นลวดลายอันสวยงาม
“ผ้าขาวม้า 5 สี” เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาวัฒนธรรมการทอผ้าของชุมชนชาวลาวเวียงเนินขามที่บ่งบอกถึงวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างๆ ผ่านลวดลายเส้นสายและสีสันผ่านผืนผ้าขาวม้า 5 สี ซึ่งในอดีตจะใช้ผ้าฝ้ายหรือไหมเป็นวัตถุดิบในการทอ แต่เนื่องจากในปัจจุบันเส้นไหมหายากชาวบ้านจึงได้หันมาใช้ไหมประดิษฐ์ในการทอ โดยการทอจะเป็นการทอแบบลายตารางหมากรุก ลายทาง หรือลาย “สี่เหลี่ยม” ส่วนเหตุผลที่เรียกว่า “ผ้าขาวม้า 5 สี” เพราะมันประกอบไปด้วยสีแดง สีเหลือง สีส้ม สีเขียว และสีขาว ผสมผสานกัน
“เสื้อจุกหม้อ” ถือเป็นอัตลักษณ์สําคัญที่บ่งบอกถึงความเป็นชาวลาวเวียงเนินขามได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่เรียกว่า “เสื้อจุกหม้อ” หรือ “จุบหม้อ” ก็เพราะขั้นตอนกรรมวิธีการย้อมผ้าด้วยสีของ “ต้นคราม” เนื่อจากต้องนําต้นครามมาแช่น้ำไว้ในหม้อเพื่อให้สีของครามออกมา เสร็จแล้วก็นําผ้าทอไปจุ่มลงในหม้อที่มีน้ำครามอยู่ จึงทําให้ชาวบ้านเรียกติดปากกันมาว่า “เสื้อจุ่มหม้อ” และได้มีการเพี้ยนเสียงจนกลายมาเป็น “เสื้อจุกหม้อ” หรือ “เสื้อจุบหม้อ” จนถึงปัจจุบัน “เสื้อจุกหม้อ” คือเสื้อที่เย็บและปักลายด้วยมือ ทั้งตัวทํามาจากผ้าดิบ ทรงไหล่ตก ซึ่งการตัดเย็บจะใช้เพียงเส้นด้ายสีแดงตกแต่งบริเวณของชายเสื้อและแขนเสื้อ
ส่วนสาเหตุที่ทําเป็นเชือกห้อย โดยเฉพาะบริเวณกระดุมก็เพื่อมีไว้สําหรับใช้ผูกสิ่งของหรือผูกปลาเวลาที่ชาวบ้านไปไร่ไปนา ในสมัยโบราณชาวบ้านจะนิยมใส่เสื้อจุกหม้อเวลาที่ไปดำนา เนื่องจากเสื้อจุกหม้อที่ใช้วัตถุดิบ คือ ผ้าฝ้ายย้อมครามที่มีคุณสมบัติถ่ายเทอากาศได้ดี ส่วนครามก็มีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสียูวีในแสงแดดได้
ผ้าซิ่นลายหมีน้อย
ผ้าซิ่นลายหมี่แม่ซาลี
ผ้าซิ่นลายหมี่ตาสลับขิด
ผ้าซิ่นลายหมี่ขอน้อย
ผ้าซิ่นหมี่ลายโคมเหลือง
ผ้ามัดหมี่หมีตา
ผ้าขิดลายปีกบ่าง
ผ้าขิดค้างห่ม หรือขิดก้านร่ม
ผ้าขิดขอชื่อใหญ่
ผ้าขิดดอกแก้ว
ผ้าขิดขอสําคัญ
ผ้าขิดขอชื่อกระบวย
ผ้าขิดมะเขือผ่าโด่ง
ผ้าลายช่อใบมะขาม
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: