ฤดูกาลนี้หอบเอาบรรยากาศของความหนาวและไอเย็นมาเยือนสู่ประเทศไทย เสื้อผ้าของผู้คนจึงเปลี่ยนผันไปตามห้วงเวลาและสภาพอากาศ เครื่องแต่งกายไม่เพียงเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย แต่ยังแฝงไปด้วยร่องรอยแห่งอัตลักษณ์ที่สืบทอดต่อกันมาหลากหลายชั่ว อายุคน สําหรับโลกยุคสมัยนั้นอัตลักษณ์แห่งชาติพันธุ์นี้ไม่ได้คงอยู่กับที่ แต่พัฒนาตามความ ก้าวหน้าในระดับสากลผ่านเทคนิคการสร้างสรรค์ที่หลากหลาย
เทคนิคการสร้างลวดลายบนผ้าทอด้วยการมัดเส้นด้ายส่วนที่เป็นด้ายพุ่งหรือด้ายยืน ให้เป็นเปลาะขนาดเล็ก ด้วยวัสดุที่นิยมและหาได้ในแต่ละท้องถิ่น เช่นเชือกกล้วย เส้นด้ายฝ้าย ใบว่านสากเหล็กหรือเส้นเชือกพลาสติก ก่อนนําไปย้อมหรือแต้มสีเพื่อให้ได้ลวดลายต่างๆ ตามที่ต้องการ เทคนิคการทอนี้มีสามารถทําได้บนเส้นด้าย ทุกชนิด ตั้งแต่ ไหม ฝ้าย ไปจนถึงใยสังเคราะห์อื่นๆ โดยนิยมทอกันมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
ผ้าทอลวดลายโดดเด่นที่มีผิวสัมผัสยกสูงกว่าผืนผ้าอื่นๆ เทคนิคการทอผ้ายกดอกสามารถสร้าง ลวดลายแบบพิเศษด้วยการทอสลับเส้นด้าย โดยให้ ส่วนหนึ่งเชิดขึ้นเรียกว่า "ยก" และเส้นด้ายอีกส่วนหนึ่ง จมลงเรียกว่า "ข่ม" ก่อนจะพุ่งกระสวยไประหว่างกลาง ด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทองหรือด้ายสีอื่นเพื่อให้ได้ลวดลาย ที่สวยงามยิ่งขึ้น ช่างทอผ้าอาจเลือกยกเส้นข่มบางเส้นขึ้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสร้างความหนาที่ต่างกัน
เทคนิคการทอที่สร้างลวดลายบนผ้าด้วยเส้นพุ่งหลากสีนํามา เกี่ยวกันเป็นช่วงโดยการทอวกกลับไปกลับมา เรียกว่าการ "เกาะ" โดยเกี่ยวและผูกเป็นห่วงรอบเส้นด้ายยืนเพื่อให้เกิด ความแข็งแรง การทอแบบเกาะหรือ ล้วงนี้เป็นอัตลักษณ์ ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยลื้อในจังหวัด น่าน เชียงรายและพะเยา ผ้าที่ทอด้วยเทคนิคนี้มักนิยมทอผสมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น จก ชิด ทอแทรกด้วยเส้นไหมหรือดิ้น ในปัจจุบันเทคนิคการทอแบบนี้ อาจเรียกว่าการทอน้ําไหล ตามลักษณะของลวดลายที่ปรากฏ
บาติกเป็นผ้าที่ใช้เทคนิคเขียนเทียนหรือพิมพ์เทียน โดยเทียนจะปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสีขณะส่วนที่ต้องการให้ติด จะใช้วิธีการแต้ม การระบายหรือการย้อมสี ที่ต้องการลงไป ความงดงามของผ้าบาติก เกิดได้จาก หลายปัจจัย ทั้งจํานวนครั้งในการวาดเทียน ลงสีและย้อม จนเกิดเป็นมิติหลายๆ ชั้น ทั้งนี้ยังต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ ของช่างฝีมือผู้วาดลาย การให้สีและผืนผ้าที่นํามาใช้เป็นวัสดุในการสร้างสรรค์ร่วมด้วย
เทคนิคการทอผ้าให้เกิดลวดลายในโครงสร้าง ด้วยการ เพิ่มเส้นด้ายพุ่งขณะทอโดยผู้ทอจะใช้ไม้เขี่ยหรือสะกิด เส้นด้ายเพื่อเปิดช่องเส้นด้ายยืนจากนั้นจึงเพิ่มเส้นด้ายพุ่ง จากผ้าด้านหนึ่งสู่ด้านหนึ่งให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม เทคนิคการเก็บขดในประเทศไทยแบ่งเป็น 3 วิธี คือ การคัดไม้บิดโดยไม่มีการเก็บตะกอ เหมาะสําหรับลวดลายที่ไม่ซับซ้อน การเก็บขิดเป็นตะกอลอยเพื่อให้ได้ลวดลาย เดิมซ้ําๆ และการเก็บตะกอแนวตั้งสําหรับผ้าลายซับซ้อน
เทคนิคการสร้างลวดลายบนผืนผ้าด้วยการเพิ่มเส้นพุ่ง เป็นช่วงๆ แบบไม่ติดต่อกันตลอดหน้าผ้าโดยขณะทอจะต้องใช้นิ้วหรืออุปกรณ์อย่างไม้แหลมหรือขนเม่นจก (ควัก) เส้นด้ายสีสันต่างๆ ขึ้นมาบนเส้นยืนให้เกิดลวดลายและสีสันต่างๆ ตามที่ต้องการ ผ้าทอเทคนิคจกที่โดดเด่นได้แก่ผ้าทอจาก ชาติพันธุ์ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มไท-ยวน ในบริเวณภาคเหนือ และจังหวัดราชบุรี กลุ่มไท-พวนในจังหวัดสุโขทัย กลุ่มไท-ดั่ง ในจังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท พิจิตร และกลุ่มภูไทในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแห่งที่มา