เมื่อพูดถึงภูมิภาคอีสานของประเทศไทย หลายคนอาจนึกถึงเสื้อผ้าทอผ้าที่เก่าแก่และมีความเป็นท้องถิ่น แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงนวัตกรรมที่น่าทึ่งและเป็นที่รู้จักในภูมิภาคอีสาน นั่นก็คือ "ลวดลายผ้าจก" ซึ่งเป็นราชินีแห่งไหมไทยที่ถูกยกย่องและเป็นที่นิยมอย่างยาวนาน ลองมาเรียนรู้เกี่ยวกับลวดลายผ้าจกและความเป็นสิริมงคลของมันกันเถอะ!
เมื่อกล่าวถึงลวดลายผ้าจก เราต้องคืบควบคุมถึงประเภทของผ้า คือ ลายแพรวา (จก) ของบ้านโพนในอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เป็นที่เกิดของลวดลายนี้ ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งไหมไทย แต่ตามการวิเคราะห์ตัวอย่างของผ้าโบราณพบว่า ช่างทอชาวภูไทยในอดีตใช้เทคนิคการทอผ้าแพรวาด้วยวิธี "จก"(การเสริมเส้นพุ่งพิเศษแบบไม่ต่อเนื่อง) ซึ่งทำให้ลายทอเปลี่ยนแปลงตามแนวระนาบต่างกันอย่างน่าทึ่ง
แต่ในปัจจุบัน การทอลวดลายผ้าจกได้เปลี่ยนแปลงและปรับเปลี่ยนเส้นทางในการสร้างลวดลาย เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ตัดเสื้อผ้าหรืองานประดิษฐ์ต่างๆ ผ้าแพรวาหนึ่งผืนมักประกอบด้วยลายหลัก9-13ลาย และมีลายคั่นระหว่างลายหลัก และลายจบด้วยลายเชิง และดั้งเดิมนิยมทอลายหลักไม่ซ้ำกันและใช้สีสันเครือเส้นยืนสีแดง หลังจากนั้นทอ "จก" เสริมเส้นด้ายพุ่งพิเศษด้วยสีเหลือง สีเขียว สีคราม และสีขาว ขึ้นอยู่กับจังหวะลวดลาย รวมถึงยังมีลายพันมหา ลายใบอุ่น ลายกาบแบต ลายหางปลาวา ลายแมงกะเบ้อ(ผีเสื้อ) ลายก้ามปู ลายดอกฮูดัง (จมูก) ลายดอกส้าน ลายดอกดาวหว่าน ลายดอกแล้ว ลายปีกดอกขวา ลายดอกแก้ว ลายตาบัง ลายดอกผักแว่น ลายม้า ลายช้าง ลายมอม ลายนาค และอีกมากมาย
นอกจากลายแพรวาแล้ว ยังมีการใช้ "ผ้าแพรมน" ที่มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อใช้เป็นผ้าอเนกประสงค์และทำเป็นผ้าพันแก้วหรือประดิษฐ์สวยงามที่ใช้ในงานพิธี
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญขอบคุณแหล่งที่มา
หนังสือมรดกภูมิปัญญา สิ่งทออีสาน