มีคำถามที่มักจะถูกถามอยู่บ่อยๆ ว่า “จากวิศวกร ทำไมถึงได้มาขายผ้าไหม?” ซึ่งเป็นคำถามที่ทำให้ผมเองได้มีโอกาสทบทวนเรื่องราวและเส้นทางของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น วันนี้ผมจึงอยากมาแชร์ประสบการณ์เส้นทางการเติบโตของ “ชอบไหม” ให้ทุกคนได้ฟังกัน
ในช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มต้นธุรกิจนี้ ผมยังคงทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานต่างจังหวัด ซึ่งรายได้ในตอนนั้นเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตแบบพอเพียง แต่ผมต้องการหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ การขายผ้าไหมจึงเริ่มต้นจากความคิดที่ว่า "แค่ต้องการเลี้ยงตัวเองเพิ่มเติม" แต่ใครจะรู้ว่า การตัดสินใจครั้งนั้นจะนำพา “ชอบไหม” ให้เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้
การเริ่มต้นธุรกิจของผมมาจาก 2 แนวคิดสำคัญ คือ การเป็นตัวแทน และ การเลือกสินค้าที่เหมาะสม
1. การเป็นตัวแทน
แนวคิดนี้ได้มาจากการฟังคำแนะนำจากช่อง คยต. ซึ่งบอกว่า หากต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ การเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นทางเลือกที่ดี แต่คำว่า "ตัวแทน" ในที่นี้ ไม่จำเป็นต้องเปิดบิลซื้อสินค้าจากเจ้าของแบรนด์หรือโรงงานเสมอไป หากคุณรู้จักแหล่งผลิตหรือเจ้าของโรงงาน คุณสามารถนำสินค้าของเขามาขายได้เลย เช่นเดียวกับที่ผมได้ทำกับผ้าไหม
2. สินค้าที่ใช่
เมื่อได้ตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจผ้าไหม ผมมองว่าสินค้าประเภทนี้มีความยั่งยืน ผ้าไหมเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูงและมีความต้องการในตลาดอยู่เสมอ ที่สำคัญ เราอยู่ในแหล่งผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้มั่นใจในสินค้าได้ อีกหนึ่งจุดแข็งคือ “น้ำหนักเบา” ซึ่งทำให้การขนส่งสะดวกและไม่แพง
ในยุคดิจิทัล การขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการเข้าถึงลูกค้าที่อยู่ไกลหรือไม่สามารถมาที่ร้านได้ ซึ่งการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผม
ในช่วงเริ่มต้น หลายๆ คนอาจจะเลือกใช้ Social Media ในการขายสินค้า แต่ผมพบว่าค่าโฆษณา (Ads) ค่อนข้างสูง และผลลัพธ์ไม่คุ้มค่า ผมจึงหันมาใช้ทักษะ SEO (Search Engine Optimization) แทน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเจอเราได้ง่ายขึ้นเมื่อทำการค้นหาสินค้าบน Google สิ่งนี้ทำให้ “ชอบไหม” มีความแตกต่างจากผู้ขายรายอื่น และช่วยให้เราสามารถสร้าง Unique Selling Point (USP) ที่ทำให้ลูกค้าจดจำเราได้ในระยะยาว
ในช่วงเริ่มต้น ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเรียนรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมผ้าไหม ไม่ว่าจะเป็นการทอ การขาย และกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ผมเจอ เพื่อให้เข้าใจกลไกตลาดผ้าไหมได้ลึกซึ้งที่สุด ซึ่งการเรียนรู้เหล่านี้คือพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ “ชอบไหม” มีความมั่นคงและพร้อมที่จะเติบโตต่อไป
วันนี้ “ชอบไหม” ได้ก้าวมาไกลกว่าที่ผมเคยคาดหวังไว้ ร้านของเรามีความพร้อมในการเติบโตและพัฒนาไปในทิศทางที่เป็นระบบมากขึ้น ผมขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเราเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือผู้คนที่ให้คำแนะนำดีๆ ตลอดเส้นทางนี้
การเติบโตของ “ชอบไหม” ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่จากความตั้งใจของผมคนเดียว แต่มาจากการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้
ขอบคุณทุกท่าน ขอบคุณทุกช่วงเวลา