ประวัติผ้าไหมไทย

การค้นพบผ้าไหมที่เก่าแก่ที่สุดในจีน การค้นพบผ้าไหมที่มีหลักฐานเก่าแก่ที่สุดอยู่ที่ประเทศจีน เมื่อประมาณ 4,700 ปีก่อน โดยมีการอ้างถึงในหนังสือจีนโบราณชื่อ ไคเภ็ก ที่กล่าวถึงพระนางง่วนฮุย พระมเหสีของพระเจ้าอึ้งตี่ ที่เป็นผู้ริเริ่มการทอผ้าไหมจากหนอนไหมที่พบโดยบังเอิญ ซึ่งต่อมาได้เผยแพร่การทอผ้าไหมไปยังอาณาจักรใกล้เคียง

หลักฐานผ้าไหมในประเทศไทย สำหรับประเทศไทย มีหลักฐานเกี่ยวกับการทอผ้าไหมที่เก่าแก่ที่สุดพบเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน โดยพบเศษผ้าไหมของวัฒนธรรมบ้านเชียง ที่บ้านนาดี อำเภอหนองหาญ จังหวัดอุดรธานี และพื้นที่อื่น ๆ ในภาคอีสาน จากการสันนิษฐานพบว่ามีการเลี้ยงและการทอผ้าไหมกระจายทั่วไปในแถบนี้

การพัฒนาการทอผ้าไหมในสมัยรัชกาลที่ 5 ในสมัยรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2411-2453) ถือเป็นยุคแรกของการส่งเสริมปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และการทอผ้าไหมในไทย โดยเฉพาะในภาคอีสานที่มีการเลี้ยงหม่อนไหมและทอผ้าไหมมากที่สุด แม้ว่าในยุคนั้นเทคโนโลยีเกี่ยวกับผ้าไหมยังไม่เจริญก้าวหน้า

การก่อตั้งกรมช่างไหม พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงก่อตั้งกรมช่างไหม และโรงเรียนสอนเกี่ยวกับการปลูกและการทอผ้าไหม โดยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดการพัฒนาวิทยาการและเทคโนโลยีการทอผ้าไหมมากยิ่งขึ้น แต่หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมก็ซบเซาลง

การฟื้นฟูการทอผ้าไหมในปี พ.ศ. 2479 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2479 มีการฟื้นฟูการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอีกครั้ง โดยมีการจัดตั้งหน่วยงานส่งเสริมและพัฒนาตามจังหวัดหลักๆ เช่น นครราชสีมา ขอนแก่น และหนองคาย และในปี พ.ศ. 2491 มีนักลงทุนชาวอเมริกัน จิม ทอมสัน จัดตั้งบริษัท จิมทอมสันไหมไทย จำกัด ทำให้การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมและธุรกิจมากขึ้น

ภาพใบหม่อน และ ตัวหนอนไหม

ภาพตัวไหมที่กำลังทำรังไหม

ภาพเส้นไหมสาวมือ

ภาพการทอผ้าไหม

ภาพไหมบ้านมีขี้ไหม

การทอผ้าไหมในปัจจุบัน การทอผ้าไหมและการตลาดในปัจจุบันถูกพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อส่งออกต่างประเทศและจำหน่ายภายในประเทศ แต่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่ทำการผลิตในรูปแบบอุตสาหกรรม เช่น บริษัทจุลไหมไทย จำกัด บริษัทอุตสาหกรรมไหมไทย จำกัด เป็นต้น

การผลิตผ้าไหมในภาคครัวเรือน สำหรับการผลิตผ้าไหมในภาคครัวเรือน พบได้มากเกือบทุกภาค โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ ที่มีการผลิตในระดับครัวเรือนและการจัดตั้งกลุ่มผู้ทอผ้า ปัจจุบันมีมากกว่า 200 รายทั่วประเทศ เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและการส่งออก

ผ้าไหมไทยเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ การพัฒนาของผ้าไหมจากอดีตจนถึงปัจจุบันสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและความงามของผ้าไหมไทยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ

ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ

ขอบคุณแหล่งที่มา

• https://thaiphamai.blogspot.com/2013/04/blog-post.html