ในอดีตจังหวัดมุกดาหารเป็นเมืองชายแดนปลายพระราชอาณาเขตที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่จนจรดแดนญวน ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงษ์ฯ กองทัพกรุงเทพฯ และกองทัพหัวเมืองเสร็จสับ แถบลุ่มแม่น้ำโขงได้ยกทัพข้ามโขงไปกวาดต้อนผู้คนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง (ดินแดนลาว) ให้อพยพข้ามโขงมาตั้งบ้านตั้งเมืองอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขง (ภาคอีสาน) ให้มากที่สุด เพื่อมิให้เป็นกําลังแก่ข้าศึก จังหวัดชายแดน เช่นจังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ฯลฯ จึงมีผู้คนหลากหลายชาติพันธุ์และในจังหวัดมุกดาหารก็มีอยู่ถึง 7 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ชาวผู้ไทย (ภูไท) ชาวไทยอีสาน ชาวกะโซ่ ชาวข่า ชาวแสก ชาวกุลา และชาวกะเลิง ซึ่งมีการทอผ้าฝ้ายและผ้าไหมเป็นภูมิปัญญามาตั้งแต่โบราณกาล
ในปี 2555 นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้มีดําริให้มีผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหารขึ้นตามภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่เพื่อรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเติมให้คงอยู่ จึงได้มีคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผ้าเอกลักษณ์ประจําจังหวัดมุกดาหาร ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ ผู้เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เพื่อทําการศึกษาและเลือกลายผ้าให้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหาร และได้พิจารณาให้ผ้าลายแก้วมุกดาเป็นผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัด
ผ้าไหมมัดหมี่ลายแก้วมุกดาจะเป็นการนําเอาลวดลายผ้าโบราณที่มีเอกลักษณ์และมีความหมายของจังหวัดมามัดเป็นลวดลายบนเส้นไหมและทอให้เป็นผืนผ้า ซึ่งแต่ละลายจะมีเอกลักษณ์และความหมายสําหรับจังหวัดมุกดาหารดังนี้
ลายสายน้ำ (ลายจ๊อกแจ็กหรือลายซิกแซก) มีลักษณะเป็นเส้นโค้งสีขาว: เป็นสัญลักษณ์แทนแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสายน้ำคู่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นเส้นกันเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศสาธารณะรัฐประชาชนลาว
ลายนาคน้อย (หรือลายพญานาค) : เป็นสัตว์แห่งความอุดมสมบูรณ์เกี่ยวกับพุทธศาสนาพุทธ ชาว อีสานจะมีการนับถือนาคเป็นวัฒนธรรมร่วมกัน จะปรากฏมีลายนาคในผืนผ้าชาวอีสานมากมายหลายแบบ หมายถึงพญานาคที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำโขงเฝ้าดูแลความเป็นอยู่ของชาวเมืองมุกดาหาร
ลายดอกช้างน้าว (ลายดอกกระบวนน้อย) : เป็นลายสีเหลืองดอกช้างน้าว ซึ่งเป็นไม้มงคลประจําจังหวัดมุกดาหาร
ลายตุ้มเล็ก (ตุ้มลายไม้) : แทนดวงแก้วเล็ก (ดวงดาวในท้องฟ้า)
ลายตุ้มใหญ่หรือลายมุก: มีลักษณะเป็นดอกสีขาวหรือที่เรียกว่าลายตุ้ม หมายถึงแก้วมุกดาซึ่งเป็นสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเมืองมุกดาหาร
ลักษณะของผ้าไหมมัดหมี่ลายแก้วมุกดาเป็นผ้ามัดหมี่ มีสี 5 สี คือ สีฟ้า สีเหลืองเข้ม สีน้ำเงิน สีขาว สีบานเย็น และจะคั่นลวดลายด้วยเส้นไหม 4 สี ได้แก่ ไหมเย็นควบสีน้ำเงินและสีขาว (ไหมหางกระรอก) เส้นไหมสีบานเย็น เส้นไหมสีเหลือง เส้นไหมสีฟ้าคราม ซึ่งเป็นผ้าที่ทอด้วยกี่พื้นเมือง 5 กระสวย
สำหรับท่านผู้สนใจต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา:
กลุ่มส่งเสริมเครือข่ายสภาภูมิภาคและสภาแห่งประเทศไทย กองกิจการเครือข่ายทางวัฒนธรรม
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพทอผ้าไหมบ้านภู
กรมหม่อนไหม