บ้านสนวนนอก อําเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ มีชื่อเสียงเรื่องการทอผ้าไหมและเป็นชุมชนโบราณที่ยังคงดํารงวิถีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย มีการใช้ภาษาพื้นถิ่นเขมรและสืบสานการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ้าไหมลายดั้งเดิมที่ตกทอดกันมาแต่โบราณ คือ ผ้าไหมหางกระรอกซึ่งถือเป็นลายเอกลักษณ์ของผ้าไหมบ้านสนวนนอก โดยวิถีชีวิตผลิตไหมของชาวสนวนนอกจะเริ่มตั้งแต่การปลูกหม่อน เก็บใบหม่อน การเลี้ยงไหมสาวไหม ไปจนถึงการฟอก ย้อม มัดหมี่ ทอผ้า และแปรรูป
ผ้าหางกระรอกเป็นผ้าที่มีประวัติสืบทอดมาอย่างยาวนานของชุมชนบ้านสนวนนอกและถือเป็นผ้าทอโบราณที่มีลวดลายอันเรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยความประณีตและงดงาม ซึ่งยังสามารถพบได้ในแถบภาคอีสานใต้และภาคใต้อีกด้วย
ตํานานผ้าหางกระรอกจะเริ่มตั้งแต่คนโบราณรู้จักกับการเลี้ยงไหมและการทอผ้า จนเกิดการพัฒนาเทคนิคต่างๆ เช่น การควบเส้น (การนำไหม 2 สีมาสาวรวมกันเป็นเส้นเดียว) ประกอบกับชุมชนบ้านสนวนนอกสมัยนั้นมีต้นสนวนขึ้นเยอะมาก จึงมักเป็นที่อยู่อาศัยของกระรอกและด้วยนิสัยช่างสังเกตของคนโบราณ ก็ได้มองเห็นว่าลายของหางกระรอกนั้นคล้ายกับไหมที่ถูกควบเส้นแล้ว นั่นเลยจึงเป็นที่มาของชื่อ “ผ้าหางกระรอก” นับตั้งแต่นั้น
ลักษณะของผ้าหางกระรอกจะใช้เทคนิคการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าไทคือ “การควบเส้น” ตามความเชื่อในเรื่องของความกลมเกลียวสามัคคีกันในครอบครัวและสายตระกูลที่นับถือผีสางด้วยกัน การนําไหมสองสีมาควบกันจะเรียกว่า “กะนิว” หรือ “ผ้าหางกระรอก” ซึ่งวิธีนี้มักเจอแต่ในแถบอีสานใต้และนิยมใช้เพียงสีเขียวควบเหลืองหรือแดงควบเหลืองเท่านั้น
แต่เดิมวัฒนธรรมของชาวเขมรคือ “ผ้าหางกระรอก” ส่วนทางลาวมีชื่อเสียงเรื่อง “ผ้าซิ่น” จุดหลอมรวมของ 2 วัฒนธรรมคือที่ชุมชนบ้านสนวนนอกได้นําเอกลักษณ์ของทั้ง 2 เชื้อชาติมาประยุกต์เป็นผ้าหางกระรอกคู่ตีนแดง ซึ่งต่อมาก็กลายมาเป็นผ้าเอกลักษณ์ประจําชุมชนบ้านสนวนนอกและยังได้รับคัดเลือกเป็นผ้าประจําจังหวัดบุรีรัมย์อีกด้วย
ขั้นตอนการฟอก-ย้อมเส้นไหม คือ เมื่อได้เส้นใยไหมสีเหลืองทองมาแล้ว ต้องนํามาต้มเพื่อฟอกกาวออกจากเส้นไหมจนกลายเป็นไหมสีขาวนวลนิ่มเงางาม แต่หากอยากได้สีสันก็ต้องนําไปย้อมโดยมีทั้งสี ธรรมชาติและสีเคมี แต่ที่สําคัญจะต้องนําเส้นไหมไป “ตีเกลียว” ซึ่งคือการนําเส้นไหมสองสีมาพันเป็นเกลียวจนเป็นเส้นเดียวหรือ “ควบเส้น” นั่นเอง นิยมใช้สีเหลืองควบกับสีเขียวหรือสีเหลืองควบกับสีแดง หรือจะควบมากกว่าสองเส้นสองสีก็ได้ จากนั้นค่อยนําไปทอเป็นผืนผ้า ซึ่งผ้าที่ทอออกมาก็จะมีสีสันเลื่อมลายเหลื่อมกันคล้ายกับหางกระรอก จึงเรียกผ้าทอลักษณะนี้ว่า “ผ้าหางกระรอก” อันเป็นภูมิปัญญาการทอผ้าของชาวอีสานใต้
สำหรับท่านผู้สนใจ ต้องการเลือกซื้อผ้าไหมสำหรับตัดเย็บชุดหรู สามารถเข้าชมเลือกผ้าที่ร้านชอบไหม ผ่านช่องทางนี้ค่ะ www.chobmai.com ทางร้านของเราจำหน่ายผ้าไหมสีพื้น ผ้าไหมลายมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเมือง และผ้าไหมประจำชาติ ผ้าไหมประจำถิ่น มากมายหลากหลายเฉดสี หลายลาย พร้อมงานตัดคุณภาพปราณีตจากช่างผู้เชี่ยวชาญ
ร้านชอบไหมขอเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันสวยงามนี้ให้คงไว้ ติดต่อทีมงานร้านชอบไหมเพื่อขอความช่วยเหลือในการเลือกซื้อสินค้าและคำปรึกษาเพิ่มเติมผ่านช่อง "LineOA : @chobmai" ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจและเลือกซื้อสินค้าของเรา ทาง "ชอบไหม" ยินดีให้บริการค่ะ
ขอบคุณแหล่งที่มา: